ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: Agri live update | อ่านแล้ว 5475 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

ชดเชยรายได้ 3 ปีแรก จูงใจชาวนาหันปลูกพืชอินทรีย์ 5 ปี เปลี่ยนพื้นที่ 1 ล้านไร่

ชดเชยรายได้ 3 ปีแรก จูงใจชาวนาหันปลูกพืชอินทรีย์ 5 ปี เปลี่ยนพื้นที่ 1 ล้านไร่

รัฐจะให้เงินชดเชยในปีแรก 2,000 บาท/ไร่ ปีที่ 2 ให้เงินชดเชย 3,000 บาท/ไร่ และปีที่ 3 ให้เงินชดเชย 4,000 บาท/ไร่..

data-ad-format="autorelaxed">

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงได้จัดทำมาตรการชดเชยเพื่อให้เกษตรกรหันมาทำการเกษตรอินทรีย์มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการชดเชยให้กับเกษตรกรรวมทั้งหมด 1 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี ให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมาตรการชดเชยดังกล่าวจะรองรับความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบ 100%

 

ทั้งนี้ มาตรการชดเชยให้เกษตรกรเปลี่ยนมาทำการเกษตรอินทรีย์ โดยรัฐจะให้เงินชดเชยในปีแรก 2,000 บาท/ไร่ ปีที่ 2 ให้เงินชดเชย 3,000 บาท/ไร่ และปีที่ 3 ให้เงินชดเชย 4,000 บาท/ไร่ โดยจะเริ่มนำร่องจากกลุ่มของข้าวก่อน เนื่องจากมียุทธศาสตร์ข้าวครบวงจรแล้ว

 

"สาเหตุที่ต้องให้เงินชดเชยในช่วง 3 ปีแรก เนื่องจากเกษตรกรที่หันมาทำการเกษตรอินทรีย์จะต้องทำใจว่าผลผลิตที่ ได้ในช่วง 3 ปีแรกลดลงไปเกือบครึ่ง ดังนั้นรัฐจึงต้องเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งการให้เงินชดเชยดังกล่าวเป็นเงินที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ตั้งแต่การเตรียมพร้อมที่ดินก่อนทำเกษตรอินทรีย์ การทำแนวกันชนกรณีแปลงข้างเคียงใช้สารเคมี และค่าใช้จ่ายในการซื้อเมล็ดพันธุ์ เป็นต้น ลักษณะจะเหมือนกับการให้เบ็ดตกปลาด้วย ไม่ใช่แค่ให้ปลาเกษตรกรอย่างเดียว" น.ส.ชุติมา กล่าว

 

น.ส.ชุติมา กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ เพราะเห็นว่าปริมาณความต้องการสินค้าออร์แกนิก หรือสินค้าเกษตรอินทรีย์มีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสินค้าเกษตรอินทรีย์ยังมีราคาสูงกว่าสินค้าเกษตรทั่วไปเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น สหภาพยุโยป สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน แต่ปริมาณผลผลิตในประเทศไทยที่ผลิตได้ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ จึงเร่ง ส่งเสริมให้เกิดเกษตรอินทรีย์มากขึ้น

 

ขณะเดียวกันการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์นี้ ยังเป็นการส่งเสริมและรณรงค์ลดการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรมลงอีกทาง โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้สารเคมีในภาคเกษตรให้ได้ 5% ภายใน 5 ปี

 

อย่างไรก็ตาม พื้นที่จะจัดทำเกษตรอินทรีย์นั้นจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่ม เช่น เอกสารสิทธิ ซึ่งทุกแปลงที่ขอการรับรองจากทางราชการต้องมีเอกสาร หรือหลักฐานยืนยันว่าทำการเพาะปลูกบนพื้นที่ถูกกฎหมาย ไม่บุกรุกป่า หรือพื้นที่สาธารณะ การทำแนวกันชนกรณีพื่นที่ข้างเคียงใช้สารเคมี เช่น การปลูกพืชที่มีความสูงกั้นสารเคมี หรือการทำคันดินกั้นสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจมากับน้ำและอากาศ

 

น.ส.ชุติมา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ระดมสมอง เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2564) ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์อีกไม่น้อยกว่า 6 แสนไร่ และเพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 3 แสนราย ในปี 2564 รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศต่อตลาดส่งออก โดยให้มีสัดส่วนตลาดในประเทศ 40% ตลาดส่งออก 60% ซึ่งจะนำร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พิจารณาภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้

 

นอกจากนี้ จะเร่งทยอยถ่ายโอนภารกิจในการตรวจสอบและตรวจรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้กับเอกชนเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันมีเพียง 8 รายเท่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจรับรองให้รวดเร็วขึ้น ส่วนผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองตราออร์แกนิกไทยแลนด์จากกระทรวงแล้ว หากจะทำการส่งออกไปต่างประเทศนั้น ก็สามารถมาตรวจเพิ่มเติมอีกเพียง 5 รายการเท่านั้น จากเดิมที่จะต้องตรวจทั้ง 15 รายการ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาลงได้ เพราะไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่

 

"ตอนนี้ผู้ที่ได้ตราออร์แกนิกไทยแลนด์ยังไม่สามารถส่งออกได้ทันที ต้องมาตรวจรับรองเพิ่มอีก 5 รายการก่อน เพราะยังไม่มีการเทียบเคียงมาตรฐาน ในการส่งออกกับมาตรฐานของประเทศผู้นำเข้าที่ใช้กันอยู่ เช่น IFOAM ของสหภาพยุโรป JS ของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลกำลังเจรจารัฐต่อรัฐเพื่อเทียบมาตรฐานให้ตรงกันเพื่อจะได้ส่งออกได้มาก ขึ้น" น.ส.ชุติมา กล่าว

 

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันเกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์มีประมาณ 30 จังหวัด โดยปี 2559 ไทยมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ประมาณ 4,000 ล้านบาท

 

source: posttoday.com/biz/gov/493885


อ่านเรื่องนี้แล้ว : 5475 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น



เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [Agri live update]:
คาราวานส้มสีทอง GI น่าน สู่ห้างสรรพสินค้า TOP Supermarket
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก) ร่วมกับ หน่วยงานภาคีต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดแถลงข่าวส้มสีทอง GI น่าน..
อ่านแล้ว: 6512
เปิดปฏิบัติการ แผนแก้จน คลังผนึกพาณิชย์-แรงงาน-เอกชน ระดมกำลังสร้างอาชีพ-เพิ่มรายได้
คนจนหมดประเทศ! กลายเป็นวลีที่ถูกค้นหา และพูดถึงกันมากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะคำนี้ถูกตีความมาจากคำกล่าวของ..
อ่านแล้ว: 6570
อึ้ง! พบสารเคมีตกค้าง เกินมาตรฐานในผัก-ผลไม้
อึ้ง!! พบสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน 64% ถั่วฝักยาว คะน้า ใบบัวบก กะเพรา พริกแดง องุ่น แก้วมังกร
อ่านแล้ว: 6532
ค้านทำเหมืองหินชัยภูมิ ยื่นศูนย์ดำรงธรรมช่วย
คัดค้านขอใช้ประโยชน์พื้นที่ทำเหมืองแร่หินก่อสร้าง ของบริษัท พารุ่งฯ หลังคณะกรรมการตรวจสอบไฟเขียว ส่งให้กรมป่าไม้พิจารณา
อ่านแล้ว: 7784
ครม.ไฟเขียว งบปลูกพืชแทนข้าว 2 โครงการ 488ล.
ครม.อนุมัติ 488 ล้าน หนุนลดพื้นที่ปลูกข้าว 2 โครงการ หันไปปลูกพืชหลากหลาย ปลูกพืชปุ๋ยสด
อ่านแล้ว: 6177
พบ หนอนตัวแบนนิวกินี ทุกภาคทั่วไทย แนะควรทำลายป้องกันการระบาด
นักวิชาการเผยพบ หนอนตัวแบนนิวกินี ในพื้นที่ทุกภาคทั่วประเทศแล้ว แนะควรทำลายทิ้งเพื่อป้องกันการระบาด
อ่านแล้ว: 6333
ส.ป.ก. เตรียมแจกที่ดินยึดคืน แก่เกษตรกรเพิ่มอีก 5จ. กว่าหมื่นไร่

อ่านแล้ว: 5613
หมวด Agri live update ทั้งหมด >>