data-ad-format="autorelaxed">
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2560 ได้ขยายเวลาโครงการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ประกอบด้วย 4 โครงการ 1.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางพารา ภายใต้แนวคิดยางพาราทั้งระบบ วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยขยายระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี สิ้นสุด วันที่ 31 มี.ค. 2561 โครงการนี้จะช่วยดูดซับยางพาราออกจากระบบได้
2.โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โดยให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารารวม 8.5 แสนครัวเรือน ขณะนี้มีเกษตรกร 1.1 หมื่นครัวเรือนอยู่ขั้นตอนดำเนินการ จึงขยายโครงการนี้ไป 90 วัน 3.โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางและโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง ที่ขยายออกไป สิ้นสุดเดือน พ.ค. 2563 เพื่อให้สอดคล้องกับการทำบัญชีและตรวจบัญชีของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
สำหรับโครงการที่ 4 ขยายโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางวงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท ที่ขยายระยะเวลาไปเป็นเดือน พ.ค. 2560-เม.ย. 2562 โครงการนี้จะขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีสภาพคล่องในการจัดซื้อยางดิบเพื่อใช้ในการผลิตในภาคอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารในอัตราไม่เกิน 3% โดยรัฐใช้งบประมาณสนับสนุน 300 ล้านบาท
นายธีธัช กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้เข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้านยางพารากับประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมื่อรวมกับไทยแล้ว 3 ประเทศนี้ มีการส่งออกยางพาราไปยังตลาดโลกรวม 70% โดยทั้งหมดได้ประเมินแนวโน้มราคาสอดคล้องกันว่าขณะนี้มีหลายปัจจัยพื้นฐานที่เป็นบวกต่อราคายางพารา
ขณะที่ตัวเลขของอุตสาหกรรมยานยนต์ขณะนี้ สะท้อนการเติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าจะเกิดความต้องการยางพาราเพื่อใช้ในการผลิตยางล้ออีกมาก ด้านสต๊อกยางทั่วโลกต่อความต้องการ ขณะนี้อยู่ในอัตรา 2.1 ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดในอัตราปกติที่ 2.5 แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้มีความต้องการในระดับสูงกว่าสต๊อก
"ราคายางปีนี้ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ก็ปรับตัวขึ้นมาสูงเป็นเท่าตัวของปีที่แล้ว คือ มาอยู่ที่ 70 บาท/กิโลกรัม แต่ใน ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ราคาค่อนข้างผันผวน เราจึงชะลอการระบายสต๊อกยางของรัฐออกไปก่อน ตลาดนิ่งแล้วค่อยเริ่มระบายใหม่ แต่ขณะนี้สต๊อกรัฐก็เหลือไม่มากแล้ว ไม่ถึง 2 แสนตัน" นายธีธัช กล่าว
source: posttoday.com/biz/gov/491327