data-ad-format="autorelaxed">
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมตรี จะเป็นประธานเปิดตัวกองทุนหมู่บ้าน (คิกออฟ) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากภายใต้งบประมาณในการพัฒนากองทุนหมู่บ้าน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการคัดเลือกชุมชนหมู่บ้านนำร่อง 1,500 แห่งที่มีศักยภาพจากทั้งหมดที่มีชุมชนหมู่บ้าน 2.2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวน 1,500 แห่ง จะมีการจัดทำโครงการที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากทั้งตลาดชุมชน ร้านค้าชุมชน ยุ้งฉาง ฯลฯ
"ถือเป็นงานใหญ่และส่งสัญญาณว่ารัฐบาลพร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการใช้ตลาดเป็นตัวนำ และมีภาคีเข้าร่วมกว่า 50 ราย โดยงบประมาณที่จะนำมาใช้พัฒนากองทุนหมู่บ้าน 1.5 หมื่นล้านบาท จะนำมาใช้ทุกรูปแบบส่วนหนึ่งนำมาพัฒนาตลาดชุมชนที่กองทุนหมู่บ้านจัดตั้งขึ้นมาด้วย ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือในการขับเคลื่อนตลาดชุมชน" นายสนธิรัตน์ กล่าว
สำหรับอีก 3 ตลาด ซึ่งจะใช้งบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ 3,000 ล้านบาท จะนำมาขับเคลื่อนตลาด ต้องชม หรือตลาดที่จะเชื่อมโยง กับการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีตลาดต้องชมทั้งหมด 77 ตลาด และในปี 2560 ตั้งเป้าเพิ่มตลาดต้องชมอีก 77 ตลาด นอกจากนี้จะผลักดันตลาดสินค้าเฉพาะอย่างหรือตลาดที่ต้องสร้างขึ้นมา โดยในวันที่ 16 มี.ค. จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อผลักดันตลาดทุเรียนและจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน และตลาดซีฟู้ดจะเปิดตัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี
ด้านตลาดกลางสินค้าเกษตร จะเป็นอีกตลาดที่จะต้องพัฒนาให้เป็นที่จุดศูนย์กลางรวบรวมสินค้าจากชุมชนเข้ามาขาย ถือเป็นการตัดกลไกพ่อค้าคนกลาง และจะมีการส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาพัฒนาเป็นตลาดกลางขนาดใหญ่ด้วย หากสามารถผลักดันตลาดสำเร็จเป็นรูปธรรมจะทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจฐานรากหลายหมื่นล้านบาทต่อปี โดยคำนวณจากหากเปิดตลาดชุมชน 1 ตลาด มีการซื้อขาย 3-5 แสนบาท/วัน หากมีตลาดแบบนี้ 100 แห่ง ก็จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 200 ล้านบาท/เดือน เพราะรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อขายในชุมชนและนักท่องเที่ยว
source: posttoday.com/biz/gov/483949