data-ad-format="autorelaxed">
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบให้ น.ส. ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลภารกิจงานด้านจัดการข้าวครบวงจร งานเกษตรอินทรีย์ งานมาตรฐานสินค้าเกษตร งานวิจัยด้านการเกษตร งานของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) งานขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และงานขององค์การสะพานปลา
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในส่วน ของข้าวได้มอบหมายให้มีการปรับแผนโครงการบริหารข้าวครบวงจรใหม่ เนื่องจากคาดว่าเกษตรกรจะปลูกข้าวจำนวนมากเกินกว่าแผนบริหารข้าว เนื่องจากอ่างเก็บน้ำสำคัญมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตออกมา 30-31 ล้านตันข้าวเปลือก
"คงต้องไปปรับดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อจูงใจเกษตรกรให้ลดการปลูกข้าว หรือจะไปปรับแผนการส่งออกได้เท่าไหร่อย่างไรเพื่อให้ปริมาณสมดุล เพราะกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าปีหน้าตั้งเป้าส่งออกไว้ประมาณ 9 ล้านตัน บริโภคในประเทศประมาณ 6-7 ล้านตัน ขณะที่เกษตรกรยอมเข้าร่วมโครงการปลูกพืชอื่นน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ทั้งนี้ นโยบายข้าวครบวงจรของรัฐบาลมีเป้าหมายควบคุมการผลิตข้าวปี 2560/2561 ไม่เกิน 27.17 ล้านตันข้าวเปลือก ลดพื้นที่การทำนาจากปีละ 69 ล้านไร่ เหลือ 55 ล้านไร่ โดยเป้าหมายสำคัญคือลดพื้นที่นาปรังรอบสองจาก 10 ล้านไร่ ให้เหลือ 6 ล้านไร่ โดยกระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นให้เกษตรกรที่ลดการปลูกข้าว โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประมาณ 2 ล้านไร่ พืชปุ๋ยสด และส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และประมง โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายครัวเรือนละไม่เกิน 5 ไร่ ไร่ละ 2,000 บาท เพื่อให้ชาวนาที่สมัครใจเข้าร่วมการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวมีรายได้ระหว่างการลดรอบการปลูกข้าวในฤดูนาปรัง
นายกัมปนาท เพ็ญสุภา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า ปีนี้เกษตรกรปลูกข้าวเต็มพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะปริมาณน้ำดี ดังนั้นคาดว่าจากปริมาณข้าวในสต๊อกโลกและผลผลิตที่ออกมาเชื่อว่าจะทำให้ราคาข้าวปีหน้าน่าจะไม่สูง ทำให้รัฐอาจต้องมีมาตรการช่วยเหลือออกมา
source: posttoday.com/biz/gov/472180