data-ad-format="autorelaxed">
ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่อง ชาวไร่ข้าวโพดโร่ฟ้องเรียกร้องเงินเยียวยาไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 10 ไร่ เช่นเดียวกับกรณีของข้าว เล็งเป้า “ปลัดพาณิชย์” ต้องแสดงความรับผิดชอบ ชี้ลดภาษีนำข้าวสาลีเป็น 0 ทุบราคาในประเทศตกตํ่าต่อเนื่อง ด้าน “วิบูลย์ลักษณ์” ปัดไม่เกี่ยว คลังเป็นผู้นำเสนอลดภาษี เผยไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งแก้ปัญหาเต็มที่แล้ว ส่วนอาหารสัตว์เสนอปลดล็อกเสรีนำเข้าข้าวโพดเพื่อนบ้าน
จากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบการบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ข้าวสาลีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมทั้งกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี ต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ในอัตราส่วน 1 : 3 (นำเข้าข้าวสาลี 100 ตัน ต้องรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 300 ตัน)
นายวิเชียร กิติทัศนาสรชัย ที่ปรึกษากลุ่มเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางกลุ่มเกษตรกร 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี และเลย กว่า 30 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(ผผ.) เพื่อฟ้อง 7 หน่วยงาน 3 กระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำกับโดยกรมการค้าภายใน มีการออกประกาศให้ข้าวสาลีเป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2559 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่สามารถกำกับ ดูแลและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ในภาพรวมได้ เพราะการลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีจาก 27% เหลือ 0% ทำให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ไม่ต้องใช้ข้าวโพด มันสำปะหลัง และปลายข้าว หรือพืชคาร์โบไฮเดรตมาผสมเป็นอาหารสัตว์อีกต่อไป เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังราคาตกต่ำมากอยู่ในขณะนี้
“รัฐบาลต้องมีมาตรการชดเชยเยียวยาเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดที่ปลูกโดยสุจริตและได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากมาตรการของรัฐ โดยเสนอให้เยียวยาไร่ละ 1 พันบาทไม่เกิน 10 ไร่ เช่นเดียวกับกรณีของข้าว จากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดประมาณกวา 1 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ”
สอดคล้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวนมติ ครม. ใหม่โดยให้กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี ต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ในอัตราส่วน 1 : 3 โดยให้นับแต่วันที่ 21 มกราคม 2559 เป็นต้นมา พร้อมกับยกเลิกการลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีจาก 0 % กลับไปที่ 27% ตามเดิม นอกจากนั้นให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดข้าราชการและผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ราคาพืชอาหารสัตว์ตกต่ำดังกล่าวด้วยภายใน 30 วัน
ขณะที่นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีลดภาษีข้าวสาลี เป็นนโยบายของกระทรวงการคลัง ไม่เกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ แต่เมื่อมีปัญหาทางกระทรวงก็มิได้นิ่งนอนใจพยายามออกมาตรการเพื่อช่วยทำให้ราคาข้าวโพดมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น โดยได้ไปเจรจากับโรงงานอาหารสัตว์ให้รับซื้อที่ราคา กิโลกรัมละ 8 บาท ตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั้งทางตรงและทางอ้อม
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า มาตรการของรัฐบาลที่ออกมา ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น ได้แก่ 1.การปรับภาษีเพิ่ม 27% จะทำให้ราคาข้าวสาลีเพิ่ม จำเป็นใช้ก็ต้องนำเข้า จะทำให้ราคาข้าวโพดในประเทศสูงขึ้นหรือไม่ เป็นคนละประเด็น ส่วนการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี ต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ในอัตราส่วน 1 : 3 ปัจจุบันข้าวโพดในประเทศมี 3 ล้านตัน ถ้ากำหนดแบบนี้ ปีหน้า ข้าวโพดในประเทศคงไม่เพียงพอ ดังนั้นทางออกเสนอให้เปิดเสรีนำเข้าข้าวโพดเพื่อนบ้าน แต่กำหนดราคาให้ต่ำกว่าข้าวโพดไทย แล้วกระทรวงพาณิชย์-เอกชนต้องทำงานควบคู่กัน จะแก้ปัญหาได้
source: thansettakij.com/2016/11/15/113373