data-ad-format="autorelaxed">
นายธนิตย์ เอนกวิทย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้กระทรวงเตรียมนำ 2 โครงการลดพื้นที่ปลูกข้าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติงบประมาณ 487.169 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด เป็นโครงการที่ปรับปรุงจากโครงการไถกลบตอซังและปลูกพืชปุ๋ยสดในนาข้าวพื้นที่ 200,000 ไร่ ประมาณ 10,000 ครัวเรือน วงเงิน 383.490 ล้านบาท ครอบคลุม 19 จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ 50,000 ไร่ และพื้นที่ที่ปลูกและไถกลบพืชปุ๋ยสด 150,000 ไร่ สำหรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ต้นทุนให้แก่เกษตรกร ไร่ละ 5 กิโลกรัม (กก.) รายละไม่เกิน 20 ไร่
พร้อมทั้งถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร และสนับสนุนค่าไถเตรียมดินครั้งแรกให้เกษตรกร ไร่ละ 500 บาท และค่าไถกลบเฉพาะพื้นที่ที่ปลูกและไถกลบพืชปุ๋ยสดไร่ละ 500 บาท โดยกรมพัฒนาที่ดินรับซื้อเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดคืนจากเกษตรกร จำนวน 6,000 ตัน ในราคา กก.ละ 20 บาท โดยต้องตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ตามมาตรฐานกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมทั้งได้จัดทำแผนการบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดที่รับซื้อคืนจากเกษตรกร และแผนการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสด
2.โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นโครงการเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) จำนวน 2 ล้านไร่ ครอบคลุม 35 จังหวัด เกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไร่ละ 4,000 บาท ดอกเบี้ย 7% ต่อปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี และเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ย 4% ต่อปี ภาคเอกชนรับซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตรและเครือข่ายเกษตรกรของภาคเอกชนในท้องถิ่น ราคารับประกันไม่ต่ำกว่า กก.ละ 8 บาท เดิมวงเงินดำเนินโครงการ 1,019.332 ล้านบาท เป็นงบให้เปล่า โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งค่าเตรียมดิน ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ และถ่ายทอดความรู้ในการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกร แต่เมื่อรัฐบาลพิจารณาเปลี่ยนเป็นการสนับสนุนหรืออุดหนุนดอกเบี้ย ทำให้ประหยัดงบประมาณลงจำนวนมาก
source: matichon.co.th/news/359993