พื้นที่เกษตรเสียหายจากน้ำท่วม

น.ส.จริยา สุทธิไชยยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน พบว่ามีพื้นทีภาคการเกษตรประสบภัย ส่วนใหญ่เป็นนาข้าวเสียหาย รวม 1.68 แสนไร่ มูลค่าเศรษฐกิจเสียหายเพียง 745 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าอยู่ระดับที่น้อยมาก ทั้งนี้เพราะพื้นที่เสียหายเป็นแนวเส้นทางน้ำไหลผ่าน ไม่ท่วมขังนาน สถานการณ์นี้ยังส่งผลดีต่อพื้นที่นาดอน ให้ได้ผลผลิตมากขึ้น แต่ทั้งนี้สศก. จะประเมินผลกระทบเป็นระยะๆต่อไป

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเจ้าพระยาขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยในวันที่ 18 ตุลาคม 2559 กรมชลประทานลดการปล่อยน้ำจากเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลงมาแล้ว แต่ทั้งหมดต้องเฝ้าติดตามพายุที่กำลังจะเข้ามาในประเทศไทยช่วง ปลายเดือนนี้ด้วย ในขณะที่กรมชลฯจะเตรียมพร้อมแนวทางบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำหลากที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พื้นที่เสียหายส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน เป็นเขตปลูกข้าว ไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมขังนาน และบางพื้นที่เร่งเก็บเกี่ยวก่อน รวมทั้งได้เตรียมพื้นที่เพื่อปลูกใหม่ ดังนั้น สศก. จึงประเมินในเบื้องต้นได้ว่าพื้นที่นาข้าวเสียหายจากน้ำท่วมน้อยมาก ซึ่งสศก.จะประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจต่อไป ต่อไป คาดว่าในปีนี้ผลผลิตข้าวจะเป็นไปตามแผนข้าวครบวงจร คือ 27.8 ล้านตันข้าวเปลือก แยกเป็นข้าวนาปี ที่ประมาณ 23 ล้านตันข้าวเปลือก และนาปรัง ที่ 4 ล้านตันข้าวเปลือก สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกน้ำท่วมตามมาตรการจ่ายเงินชดเชยครัวเรือนละ 3,000 บาทนั้นกระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจพื้นที่และเสนอชื่อเพื่อขอรับการช่วยเหลือดังกล่าวผ่านกระทรวงมหาดไทย ต่อไป นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯยังมีแผนฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ต่อเนื่องจากการช่วยเหลือในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาตามมาตรการออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร และเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับเกษตรกรกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

source: matichon.co.th/news/326636

ส่งความคิดเห็น