แจ็ก หม่า เยือนไทย

สร้างความตื่นเต้นให้กับคนไทยโดยเฉพาะกับนักธุรกิจในประเทศไม่น้อยทีเดียวสำหรับการมาเมืองไทยของเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง "แจ็ก หม่า" ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยการเดินทางมาในรอบนี้ได้เข้าพบปะกับผู้นำประเทศทั้ง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ 

ขณะที่ประเด็นสำคัญที่หลายคนกำลังกล่าวถึงในการเข้าพบกันระหว่าง "แจ็ค หม่า" กับผู้นำไทยครั้งนี้ นอกเหนือจากรูปที่ชาวเน็ตเอามาล้อเลียนเปรียบเทียบรูปกับครั้งอดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" แล้ว คือการนำแนวความคิดของ "แจ็ก หม่า" มาประยุกต์ช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลมาเป็นตัวผลักดัน ผ่านต้นแบบอย่างบริษัทอาลีบาบาที่เคยได้ผลักดันธุรกิจขนาดเล็กในประเทศจีนให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว 

แล้วรัฐบาลไทยเองก็ปิ๊งไอเดียนี้ โดยเตรียมตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 คณะ แบ่งเป็นคณะทำงานของไทย และคณะทำงานจากบริษัทอาลีบาบา เพื่อวางแผนร่วมกันให้เสร็จภายในเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ "แจ็ก หม่า" ยังสนับสนุนในการที่ไทยผลักดันโครงการระบบการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ "อีเพย์เมนต์" ของรัฐบาล เพราะไม่เพียงแต่จะลดการใช้เงินสดในอนาคต แต่จะช่วยเก็บข้อมูลความต้องการสินค้าของลูกค้าได้ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาสินค้าและธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการมากขึ้น โดยอาลีบาบายินดีจะให้คำแนะนำกับรัฐบาลไทยโดยเฉพาะระบบความปลอดภัย ไม่ให้ระบบมีข้อบกพร่องหรือไม่ให้เกิดการฉ้อฉลได้

แต่ "เผือกร้อน" ที่หลายคนตั้งข้อสงสัยคือ การเข้ามามีอิทธิพลของ "แจ็ก หม่า" กับรัฐบาลในยุคนี้ อาจจะเข้ามาครอบงำธุรกิจในประเทศไทยหรือไม่ โดยเฉพาะการจะกระโดดเข้ามาลงทุนของอาลีบาบาในประเทศไทยในอนาคต เพราะอย่าลืมว่าไทยกำลังเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคนี้ และอาลีบาบาเองก็อาจกำลังมองหาทำเลทองในการขยายฐานเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเจาะตลาดใหม่ ๆ ในกลุ่มประเทศที่มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน

อีกทั้งการเดินหมากตามรอยเท้าของ "แจ็ก หม่า" ในครั้งนี้ ไทยอาจต้องพึ่งแพลตฟอร์มเขาทั้งหมด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเราจะมีอะไรต่อรองเขาได้ ซึ่งแม้มันคือโอกาสของประเทศเหมือนกัน แต่ในระยะยาวแล้ว สิ่งที่เราจะได้ต้องให้มากกว่าที่เขาจะได้จากเรา ซึ่งรัฐบาลเองต้องมองยาว ๆ ให้ทันเกม

source: prachachat.net/news_detail.php?newsid=1476679761

ส่งความคิดเห็น