นักศึกษาภาคอีสาน ใช้ชีวิตร่วมกับเกษตรกร

นายกวีพล เผือกขำ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ และ นางสาวกาญจนา คำปาน เจ้าหน้าที่งานขยายผล ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร ให้การต้อนรับคณะเยาวชนภาคอีสานจาก13 มหาวิทยาลัย จำนวน 54 คนที่เข้าศึกษาดูงานในศูนย์ฯ ตามโครงการมูลนิธิรากแก้ว

พร้อมบรรยายแนะนำเกษตรกรที่ได้น้อมนำพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวไปปฏิบัติใช้จนประสบความสำเร็จ และได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ พร้อมนำคณะเยาวชนลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โดยใช้ชีวิตอยู่กับเกษตรกร ร่วมกิจกรรมด้านการผลิตประจำวันกับเกษตรกร เป็นเวลา 1 วัน 1 คืน

ณ บ้านเกษตรกร จำนวน 4 ราย ประกอบ  1. นายละมัย พังแสงสุ บ้านนาคำ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร 2. นางอำนวย ดากาวงค์ บ้านดงน้อย ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร 3. นายขวัญใจ แก้วหาวงค์ บ้านเหล่านกยูง ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกล นคร และ 4. นางดวงตา ดากาวงศ์ บ้านนาเลา ต.บึงทวาย อ.เต่างอย จ.สกลนคร

สำหรับมูลนิธิรากแก้วนั้นเป็นมูลนิธิ ที่ส่งเสริมให้ภาคการศึกษานำนักเรียน นิสิตนักศึกษา และคณาจารย์ ร่วมเรียนรู้นอกห้องเรียน ศึกษาจากปัญหาจริงในชุมชน และนำความรู้ความสามารถมาดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ โดยใช้หลักการพัฒนาตาม แนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติใช้

เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมร่วมกับชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนให้สามารถพึ่งตนเองได้ และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยทำงานร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิมั่นพัฒนา

นอกจากนี้ มูลนิธิรากแก้วยังร่วมมือกับภาคการศึกษาในการสนับสนุนการพัฒนานิสิตนักศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสังคมและการใช้ชีวิตอย่างมีภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานตัวอย่างโครงการพัฒนาที่นำแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้และเกิดผลสำเร็จ และจัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของนิสิตนักศึกษาและอาจารย์ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการทำงานร่วมกับชุมชน

ทั้งนี้เพื่อถอดบทเรียนและนำแนวปฏิบัติที่ดีมาเผยแพร่และปรับใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดการต่อยอดและขยายผล โดยมูลนิธิฯ จะรวบรวมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาจิตอาสาของเยาวชนและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างถูกทิศทาง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ทั้งความคิด และการปฏิบัติ เพื่อการร่วมพัฒนาประเทศชาติต่อไป

source: dailynews.co.th/agriculture/524917

ส่งความคิดเห็น