ปัญหาประมง

สมาคมประมงร่อนจดหมายด่วนที่สุด 3 ฉบับ ทวงถามรัฐมนตรีแรงงาน-อธิบดีกรมประมง/กรมเจ้าท่า จี้วิกฤติแรงงานขาด-ร่างข้อบังคับไต้ก๋ง-คนประจำเรือยังไม่คืบ อีกด้านซัดกันนัว ประมงอ่าวไทย-อันดามันงัดข้อไม่ยอม ต่างฝ่ายต้องการจะทำประมงทั้งสองฝั่ง เตรียมปิดห้องเจรจาถก 6 จังหวัดหาทางออก 15 ก.ย.

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 8 กันยายน 2559 จำนวน 3 ฉบับ ฉบับที่ 1 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรื่องขอทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวขาด เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 เรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงาน ซึ่งได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 อาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพราะชาวประมงไม่มีช่องทางในการนำแรงงานที่ถูกกฎหมายมาใช้ได้ จึงได้เสนอขอให้มีการจัดทำ One Stop Service บริเวณชายแดนเพื่อนำเข้าแรงงานต่างด้าวเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลน

ฉบับที่ 2 ถึงอธิบดีกรมประมง เรื่องการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งอันดามัน ประจำจังหวัด ทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ขอให้เร่งดำเนินการออกประกาศโดยด่วน เนื่องจากทั้ง 6 จังหวัดได้รับความเดือดร้อน และฉบับที่ 3 ถึงอธิบดีกรมเจ้าท่าให้พิจารณา (ร่าง) ข้อบังคับว่าด้วยการกำหนดตำแหน่งผู้ทำการในเรือที่ต้องมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถสำหรับเรือประมง พ.ศ. 2559 เกี่ยวกับการให้คนไทยและคนต่างด้าวเป็นผู้ได้รับประกาศนียบัตรในตำแหน่งนายท้าย ช่างเครื่อง รวมทั้งจำนวนคนไทยและคนต่างด้าวที่ต้องมีในตำแหน่งนั้นๆ ตามขนาดของเรือประมง ซึ่งผ่านมาร่วม 2 เดือนแล้วยังไม่เห็นความคืบหน้า จึงทวงถาม และที่สำคัญได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถหาคนไทยมาทำงานในตำแหน่งที่กำหนดได้ตามกฎหมายปัจจุบัน

อย่างไรก็ดีปัญหาต่างๆ นั้นทางสมาคม จะนำเข้าประชุมทั้งหมดในวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวประมง และนำเรื่องราวต่างๆ จะนำไปปรึกษาหารือกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกรอบหนึ่ง เนื่องจากปัญหาต่างๆ เหล่านี้ หากไม่แก้ไข เชื่อว่าจะไม่สามารถปลดบ่วงไอยูยู อีกทั้งจะกลายเป็นวังวนกลับไปสู่วงโคจรค้ามนุษย์ เพราะผู้ประกอบการก็ต้องดิ้นรนที่จะออกไปทะเล แม้รู้ว่าผิดก็ตาม วอนภาครัฐเห็นใจชาวประมงด้วย รวมทั้งเสนอให้กรมประมง มีการคำนวณค่าผลผลิตจับปลายั่งยืนสูงสุด(MSY)ในต้นปี 2560 ใหม่ โดยจะให้ประเมินเป็นรายปี แทนทุก 2 ปี (ดูตารางประกอบ)

ขณะที่นายบุญชู แพใหญ่ นายกสมาคมการประมงทับละมุ (สกปท.) จังหวัดพังงา ได้ทำจดหมายเปิดผนึกร้องเรียนถึงสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ขอให้เป็นตัวกลางในการจัดประชุมหารือปัญหาการทำประมง 2 ฝั่ง สืบเนื่องจากทางกลุ่มประมงจังหวัดชุมพร ได้ร้องเรียนไปยังกรมประมงในเรื่องความเดือดร้อนจากการแบ่งพื้นที่ทำการประมงออกเป็น 2 พื้นที่ ตามใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มประมงดังกล่าวมีความประสงค์ต้องการทำประมง 2 ฝั่งคือทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามันเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ชาวประมงฝั่งอันดามันทั้ง 6 จังหวัดขอค้านด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1.จะเกิดปัญหาการแย่งชิงคนงานต่างด้าวและจ่ายค่าจ้างเกินจริง และ 2.จะมีปัญหาเรื่องปริมาณการจับสัตว์น้ำหรือหาค่า MSY ทางสมาคมเกรงจะนำมาซึ่งการเพิ่มวันหยุดการทำประมงอีก และอาจจะมีผลทำให้มีการลดเรือประมงลงอีก จะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมงฝั่งอันดามันได้ จึงขอให้ทางสมาคมการประมงฯ จัดประชุมหารือร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อยุติเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

thansettakij.com/2016/09/15/96328

ส่งความคิดเห็น