data-ad-format="autorelaxed">
ราคาข้าวในประเทศ
ราคาข้าวในประเทศเด้งรับขยับขึ้น หลังไทยชนะประมูลข้าวฟิลิปปินส์ 1 แสนตัน ข้าวสาร 5% พุ่งอีก 500 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกเพิ่มอีก 200 ด้านสมาคมผู้ส่งออกไทยเร่งเบ่งเค้กสมาชิกส่งมอบให้แล้วเสร็จ ระบุได้กันที่ 362 ดอลล์ต่อตัน โอดงวดเดือนกันยาฯอาจขาดทุนเพราะข้าวใหม่ในตลาดมีไม่มากและราคาสูง จับตารายเล็กขายสิทธิ์ ขณะ 5 บิ๊กวงการได้รับจัดสรรมากสุด
จากกรณีที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ชนะการประมูลขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีให้รัฐบาลฟิลิปินส์ 1 แสนตัน จากที่เปิดประมูล 2.5 แสนตัน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ข่าวดีดังกล่าว ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศขยับสูงขึ้น โดยราคาข้าวสาร 5% ล่าสุดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 11,800-12,000 บาทต่อตันจากเดิมอยู่ที่ 11,500 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 300-500 บาทต่อตันและยังส่งผลถึงราคาข้าวเปลือกได้รับอานิสงส์นี้ ด้วยราคาข้าวเปลือกในประเทศขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,200 บาทต่อตันจากเดิมเฉลี่ยที่ 8,000 บาทต่อตัน ช่วยให้ชาวนาพอยิ้มได้บ้าง
ในขณะที่แหล่งข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยว่า ข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ประมูลมาได้ในครั้งนี้(เป็นข้าวขาว 25%) ได้นำมาจัดสรรให้สมาชิกของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเป็นผู้ส่งมอบ โดยจะพิจารณาสัดส่วนตามประวัติการส่งออก 3 ปีย้อนหลัง(2556-2558) ทำให้รายใหญ่จะได้รับการจัดสรรปริมาณมากกว่ารายเล็ก อาจทำให้เกิดการซื้อสิทธิ์กรณีรายเล็กมองว่าไม่คุ้มค่ากับการส่งมอบ
“ล่าสุดทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ส่งหนังสือเวียนมายังสมาชิกว่าราคาที่จัดสรรให้ผู้ส่งออกนั้นอยู่ที่ 362 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากราคาที่ประมูลมาได้อยู่ที่ 424.85 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งผู้ส่งออกรายเล็กมีคำถามว่าถูกหักค่าใช้จ่ายจากส่วนไหน เช่นค่าบริการระหว่างจัดส่งหรืออย่างไร”
สำหรับการส่งมอบข้าวให้ฟิลิปปินส์ในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือในช่วงเดือนกันยายน ส่งมอบปริมาณ 40,000ตัน อาจจะมีปัญหาการส่งมอบเพราะข้าวที่เพาะปลูกใหม่ยังเก็บเกี่ยวได้ไม่เต็มที่(ฟิลิปปินส์กำหนดต้องเป็นข้าวใหม่) และอีก 60,000 ตันในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งในช่วงนี้ไม่น่ามีปัญหาเพราะผลผลิตข้าวออกมามากแล้ว
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ที่สมาคมแจ้งหนังสือเวียนไปยังสมาชิกแจ้งเรื่องราคาข้าวที่จัดสรรให้สมาชิกอยู่ที่ 362 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากราคาที่ประมูลมาได้ 424.85 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันนั้น ส่วนที่ถูกหัก (62.58 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน)เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งจากท่าเรือในฟิลิปปินส์ไปยังโกดังเก็บที่ฟิลิปปินส์ที่สมาคมฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ส่วนการจัดสรรให้กับสมาชิกนั้น เบื้องต้นสมาชิกทุกรายจะได้รับการจัดสรร50 ตัน ส่วน 5 รายใหญ่ที่จะได้รับการจัดสรรมากที่สุด ประกอบด้วย เอเซียโกลเด้นไรซ์ ,นครหลวงค้าข้าว ,ซีพีอินเตอร์เทรด, ธนสันต์ไรซ์และไรซ์แลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งปริมาณที่ได้รับจัดสรรจะเฉลี่ย ๆ กันไปเช่น 10,000 ตัน 8,000 ตัน และ4,000ตัน เป็นต้น
“การส่งมอบช่วงเดือนกันยายนน่าจะมีปัญหาและเอกชนน่าจะขาดทุนเพราะข้าวที่ออกมายังมีปริมาณไม่มากและราคาสูง ซึ่งก็คงต้องรับสภาพไป เพราะภาครัฐต้องการให้เอกชนช่วยประมูลข้าวล็อตนี้ แม้จะรู้ว่าจะต้องขาดทุนก็ตาม เนื่องจากราคาที่ฟิลิปปินส์ตั้งไว้ต่ำมาก ถ้าเราไม่เสนอขายเวียดนามก็จะได้ปริมาณข้าวไปทั้งหมด”
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประมูลข้าวจีทูจีฟิลิปปินส์ครั้งล่าสุดไทยได้ 1 แสนตัน และเวียดนามได้ 1.5 แสนตันหลังจากนี้มีแผนจะเดินหน้าเข้าร่วมประมูลข้าวในประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย และข้าวที่ฟิลิปปินส์ที่จะเปิดประมูลอีก
source: thansettakij.com/2016/09/05/93648