data-ad-format="autorelaxed">
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอบข้อซักถามกรรมาธิการ (กมธ.) ซักถาม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอนหนึ่งกรณีดำเนินการในนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไรว่า เราได้ขอให้สถาบันวิจัยพัฒนาประเทศ (TDRI) ดำเนินการทำวิจัยในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่า มีการแทรกแซงราคาพืชผลทางเกษตร และการแทรกแซงตลาด เมื่อสรุปผลพบว่า กระบวนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว แม้จะมีประโยชน์ต่อเกษตรกร ยกระดับพืชผลการกษตร แต่มีช่องโหว่เยอะ ดังนั้นในงานวิจัยจึงเสนอให้ทำนโยบายประกันราคาข้าวแทน แบบสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
นายวิชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่า นโยบายประกันราคาข้าวไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่พบว่ามีการทำให้เกิดสิ่งทีเรียกว่าการทุจริตเชิงนโยบายได้ ซึ่งขณะนี้เรากำลังไต่สวนคดีนายอภิสิทธิ์ที่ถูกร้องเรียนในคดีประกันราคาข้าวอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้สองมาตรฐาน
“ถามว่าทำไมคดีนายอภิสิทธิ์ถึงยังไม่จบ เพราะมีปัญหาเรื่องการส่งเอกสารต่าง ๆ และการให้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งในด้านของการไต่สวนอยู่ในระหว่างกระบวนการ และล่าสุดได้สรุปความเห็นแล้วว่า ต้องมีคนผิด ไม่ผิดไม่ได้ เพราะว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นการทุจริตในด้านเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) คือให้บริษัทมารับซื้อข้าว โดยอาจจะใช้วิธีการฮั้ว ฉะนั้นจุดนี้เป็นจุดแตกต่างจากกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ใช้วิธีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แต่ให้บริษัทเอกชนมารับซื้อข้าวแทน ซึ่งปรากฏว่ามีการฮั้ว โดยขณะนี้เราใกล้จะแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และจะดูว่าต้องแจ้งใครบ้าง
source: isranews.org/isranews-news/item/35842-wicha_898_02.html