data-ad-format="autorelaxed">
สมุนไพรไทย
สปสช. เผย รพ. จัดบริการการแพทย์แผนไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อัตราการใช้ยาสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน เผย ไตรมาสสองปี 2559 อัตราการใช้ยาสมุนไพรไทยสูงกว่า ปี 2558 ทั้งปี ระบุ ครม. อนุมัติงบจัดบริการแพทย์แผนไทยปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 11.61 บาท / ผู้มีสิทธิ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพบริการ
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย สปสช. จึงได้ร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดสิทธิประโยชน์บริการด้านการแพทย์แผนไทย ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) มีคุณภาพและปลอดภัย คู่ขนานไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน และมีการใช้ยาจากสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มขึ้น
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ในปี 2560 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยให้กับกองทุนบัตรทองเพิ่มขึ้น จากปี 2559 อยู่ที่ 10.77 บาทต่อผู้มีสิทธิ์ หรือ 525,435,990 บาท เป็น 11.61 บาทต่อผู้มีสิทธิ์ หรือ 566,601,669 บาท ซึ่งจะทำให้การจัดบริการแพทย์แผนไทยของหน่วยบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และรองรับสังคมผู้สูงอายุ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ของประเทศ ซึ่งภาพรวมการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยในระบบบัตรทอง ในการจัดบริการนวด ประคบ อบสมุนไพร มีหน่วยบริการรัฐและเอกชนที่ร่วมจัดบริการเพิ่มขึ้นจาก 1,633 แห่ง ในปี 2552 เป็น 6,260 แห่ง ในปี 2558 ส่วนการบริการฟื้นฟูสุขภาพมารดาหลังคลอดจาก 136 แห่งในปี 2553 เป็น 951 แห่ง ในปี 2558 ส่วนการสั่งใช้ยาสมุนไพรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 8,652 แห่ง ในปี 2555 เป็น 10,975 แห่ง ในปี 2558 ขณะที่ข้อมูลไตรมาส 2 ปี 2559 มีหน่วยบริการที่ร่วมเบิกจ่ายยาสมุนไพรไทยแล้ว 11,038 แห่ง นับเป็นแนวโน้มที่ดีในการสนับสนุนบริการแพทย์แผนไทย
“การแพทย์แผนไทยรวมถึงสมุนไพรไทย ถือเป็นภูมิปัญญาของชาติ เพื่อใช้ในการรักษาและฟื้นฟู โดยมีงานวิชาการเป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์ ดังนั้น สปสช. จึงสนับสนุนหน่วยบริการในการจัดบริการเพื่อควบคู่กับการรักษาโดยการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมและพัฒนาให้การแพทย์แผนไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความยั่งยืน เพื่อเป็นหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทยทั้งประเทศ” รักษาการเลขาธิการ สปสช. กล่าว
credit: manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9590000088711