data-ad-format="autorelaxed">
เครื่องสีข้าว
คณะทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ หัวหน้าทีมภาคเอกชน คือ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งได้เดินหน้าจัดตั้งบริษัท ประชารัฐ รักสามัคคี จำกัด ในระยะที่ 1 ไปแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เพชรบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ และอุดรธานี ซึ่งเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยมีการพัฒนาและยกระดับสินค้าไปหลายรายการ เช่น สับปะรดและกุ้งมังกร จังหวัดภูเก็ต ขนมหม้อแกง จังหวัดเพชรบุรี และผ้าภูอัคนี จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับรายได้ของชุมชน
ผลงานชิ้นล่าสุดของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ สร้างความฮือฮาไม่น้อยก็คือ การเปิดตัว “เครื่องสีข้าว” ที่มีความทันสมัย เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ข้าว และสร้างรายได้ให้เกษตรกรมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 78 ล้านไร่ แบ่งเป็นข้าวนาปี 62 ล้านไร่ และข้าวนาปรัง 16 ล้านไร่ ทำให้มีผลผลิตข้าวเปลือก 30 ล้านตัน/ปี
ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับภาควิชาเกษตรกลวิธาน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำโครงการวิจัยพัฒนาเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก ให้มีขนาดกะทัดรัด มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีศักยภาพเชิงพาณิชย์ที่สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในประเทศและอาเซียน
ปัจจุบันได้คิดค้นเครื่องสีข้าว 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ตุ๊กตุ๊กสีข้าว สามารถเคลื่อนย้ายได้ เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ทุกพื้นที่ทั้งเขตเมืองและชนบท โดยสามารถสีข้าวได้สูงสุด 100 กิโลกรัมต่อครั้ง ราคาประมาณ 300,000 บาท 2.เครื่องสีข้าวครัวเรือนระดับชุมชน เป็นเครื่องสีข้าวขนาดกลาง เหมาะกับชุมชนและร้านค้าที่จำหน่ายข้าว สามารถสีข้าวสูงสุด 1 กิโลกรัมต่อครั้ง และรูปแบบที่ 3.เครื่องสีข้าวครัวเรือน เป็นขนาดเล็ก สามารถสีข้าวได้สูงสุด 400 กรัมต่อครั้ง ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบนี้ สามารถสีข้าวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“รศ.ดร.ศักดา อินทรวิชัย” ผู้พัฒนาเครื่องสีข้าว บอกว่า เครื่องสีข้าวครัวเรือน เป็นการพัฒนาและปรับปรุงมาจากเครื่องสีข้าวขนาดใหญ่จากโรงสีข้าว สามารถรองรับข้าวได้ทุกชนิด โดยนำร่องข้าว 3 พันธุ์ ได้แก่ ข้าวกล่ำ ข้าวหอมมะลิ และข้าวสังข์หยด ราคาเครื่องสีข้าวขนาดเล็กอยู่ที่ 20,000 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนเครื่องขนาดกลางราคา 30,000 บาท ขณะนี้สามารถสั่งซื้อได้แล้ว
จากข้อมูลการวิจัยพบว่า ประชาชน 1 ราย จะบริโภคข้าวขาว 100 กรัมต่อมื้อ เท่ากับว่าใช้ข้าวเปลือก 150 กรัมต่อมื้อ หรือต้องสีข้าวประมาณ 450 กรัมต่อวัน แต่ใช้เวลาสีข้าวประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของเครื่องสีข้าว คือมีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย สามารถเคลื่อนย้ายไปสู่กลุ่มเกษตรกรในระดับชุมชน ระดับครัวเรือน และระดับบุคคลได้ และสามารถสีข้าวได้หลากหลายขนาด เนื่องจากเมล็ดข้าวแต่ละพันธุ์ขนาดไม่เท่ากัน และออกแบบมาเพื่อปรับขนาดได้ทั้งข้าวขาว ข้าวกล้อง ตามความต้องการ รวมถึงผู้บริโภคสามารถรับประทานข้าวที่อุดมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์
นอกจากนี้จะมีการสีข้าวจำหน่ายภายในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต วิลล่ามาร์เก็ต และกูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน และขณะนี้ยังมีการนำร่องสั่งเครื่องสีข้าวขนาดเล็กไปยังโรงเรียน 60 แห่ง เพื่อให้นักเรียนนำข้าวจากบ้านไปสีที่โรงเรียนได้ด้วย
Source: http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1471238091