data-ad-format="autorelaxed">
สับปะรดภูแล
พืชที่น่าสนใจสำหรับวันนี้เป็นผลไม้ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของผลไม้ที่เป็นที่นิยมของคนไทย ซึ่งผลไม้ที่ว่านั้นนั่นก็คือ สับปะรด แต่สับปะรดที่เป็นที่สนใจของผู้บริโภคในเวลานี้คงหนีไม่พ้น สับปะรดภูแล ที่พักหลังได้กลายมาเป็นขวัญใจของผู้ที่ชื่นชอบรับประทานสับปะรดจำนวนมาก เนื่องจากมันมีรสชาติอร่อย หวาน กรอบ แถมยังมีกลิ่นหอม กินได้กระทั่งแกน และมีเนื้อสีทองน่ารับประทานอีกด้วย
ที่เรียกกันว่า สับปะรดภูแล นั้นเพราะได้มีการนำพันธุ์สับปะรดมาจากภูเก็ตแล้วนำมาปลูกที่ตำบลนางแล โดยมีการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและสภาพภูมิประเทศจนได้สับประรดที่มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย แถมยังออกผลได้ตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้จึงนำชื่อภูเก็ตและนางแลมาผสมกันกลายเป็นชื่อพันธุ์ภูแลนั่นเอง
วิธีการปลูกสับปะรดภูแล
สำหรับการเตรียมพื้นที่ปลูก สับปะรดภูแล นั้นต้องไถพรวนดินให้ร่วนซุยทั่วพื้นที่ และให้ทำแปลงให้มีความสูงพอสมควร ส่วนทางด้านความยาวก็แล้วแต่ความต้องการ แล้วทำการขุดหลุมปลูกโดยให้รองพื้นด้วยปุ๋ยหมักประมาณ 1 กระป๋องนมต่อหลุม ทางด้านระยะห่างในการปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 40 ซม. และความห่างระหว่างแถวคือ 1-1.5 เมตร หลังจากนั้นก็นำต้นพันธุ์ลงปลูกแล้วกลบดิน รดน้ำ ให้ปุ๋ยต่อไป
สำหรับการใส่ปุ๋ยเมื่อปลูกสับปะรดได้ 1 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ/ต้น หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ในอัตราเดิม แต่ให้เสริมด้วยปุ๋ยหมักบำรุงสับปะรด ซึ่งปุ๋ยสูตรนี้จะใช้กากน้ำตาล 1 กก. เปลือกสับปะรด 3 กก. พด.2 จำนวน 1 ซอง แล้วนำมาผสมกัน หมักไว้ 3 เดือน ก็สามารถนำมาใช้ได้ ต่อมาเมื่อปลูกได้ 10 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ในอัตราเดิมอีกครั้ง พอถึงช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ให้ใส่ปุ๋ยเร่งดอก เร่งผล โดยใช้ปุ๋ยอีทีฟอน 10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ต่อจากนั้นหลังจากให้ผลผลิตประมาณ 4 เดือน ให้ใช้ใบที่อยู่ด้านข้างห่อผลไว้ แต่ก่อนห่อให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ซึ่งเมื่อห่อผลได้ประมาณ 2 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้
ด้วยเวลาเพียงไม่นานสับปะรดภูแลก็สามารถเข้ามานั่งอยู่กลางใจของผู้บริโภคได้อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะมันมีความโดดเด่นเป็นอย่างมากทั้งทางด้านรสชาติ และความหอม ที่มาพร้อมกับความกรอบ ที่ไม่เหมือนกับสับปะรดสายพันธุ์อื่น ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สับปะรดภูแลจะกลายเป็นสับปะรดที่เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถสร้างเศรษฐีชาวเกษตรกรมาแล้วหลายราย
ข้อมูลจาก thaiarcheep.com