รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวหอมมะลิไทยถูกข้าวหอมของเวียดนามแย่งส่วนแบ่งทางตลาดในประเทศฮ่องกงอย่างมาก โดยสัดส่วนการส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกง ในปี 56 มีมูลค่า 182 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมีลัดส่วน 56.4% ของการส่งออกข้าวไปตลาดฮองกงทั้งหมดลดลงจากปี 50 ที่ไทยมีส่วนแบ่งสูงถึง 90% ต่างจากประเทศเวียดนามเดิมในปี 50 มีส่วนของข้าวเวียดนามในฮ่องกงเพียง 0.4% หรือมูลค่า 760,000 แสนเหรียญฯ เพิ่มเป็น 28.7% ในปี 56 ที่มูลค่า 92.73 ล้านเหรียญฯ ส่งผลให้ไทยเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปกว่า 35% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นหากไม่มีมาตรการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสม และทันเวลา อาจส่งผลให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่านี้
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้้ข้าวหอมมะลิไทย เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับเวียดนามเป็นเพราะ ราคาข้าวไทยที่สูงขึ้นในช่วงปี 51-56 หรือสูงขึ้น 162.8% และราคาขายปลีกในตลาดฮ่องกง สูงขึ้นถึง 84.2% ส่งผลให้ผู้นำเข้าฮ่องกงหันไปนำเข้าข้าวจากเวียดนามมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่าข้าวไทย 40% แต่ผู้บริโภคชาวฮ่องกงถูกใจคุณภาพ และต้องการบริโภคข้าวหอมมะลิไทย จึงทำให้พ่อค้านำข้าวของเวียดนามมาผสมกับข้าวไทยเพื่อบรรจุถุงขาย รวมถึงเลียนแบบรรจุภัณฑ์ของไทย หรือนำบรรจุภัณฑ์ข้าวไทยกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงปลอมเครื่องหมายการค้า และเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศด้วย
“กลุ่มร้านอาหาร ที่มีสัดส่วนการบริโภคข้าวสูงถึง 80% ได้หันไปสั่งซื้อข้าวที่มีการผสมกับข้าวจากชาติอื่น ที่มีราคาถูกกว่า ทั้งที่ตั้งใจเพื่อลดต้นทุนและทั้งที่ไม่ทราบความแตกต่างของข้าว ทำให้ไทยเสียส่วนแบ่งการค้าไปมาก ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ที่มีสัดส่วน 20% และมีความเคยชินและเข้าใจว่าข้าวหอมในหลายๆยี่ห้อ คือข้าวที่มาจากไทย”
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก เดลินิวส์
ข้อมูลจาก uasean.com/kerobow01/1289