มีกระแสกันมานานแล้ว สำหรับเรื่องทุเรียนเทศ ที่รักษามะเร็งได้ และออกฤทธิ์มากกว่าการทำคีโม หรือเคมีบำบัดนับ 10,000 เท่า แต่เหล่าคนไทยติ่งต่างชาติ ไม่ทันอ่าน ไม่ทันศึกษา ไม่สืบที่มาที่ไป ก็ออกมาด่าว่ากันเอง มีประโยคนึง จำได้ติดใจเลย มีผู้หญิงคนหนึ่ง โพสเหน็บแนมทางเฟสบุ๊คว่า "อาจารย์ที่พูดเป็นอาจารย์ ม.เกษตร ไม่ใช่เหรอคะ จะมารู้เรื่องรักษามะเร็งได้ยังไง ถ้าได้จริงคนเรียนหมอเขารู้ ก็ทำยามานานแล้ว" เห็นแบบนี้แล้วปวดใจมาก กับการที่มีคนมาพูดแบบนี้ คนพวกนี้นอกจากไม่ช่วยกันหาความจริง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแล้ว ยังชอบอวดฉลาดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ศึกษา
ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีทนายความไทยท่านหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งระยะ 4 คุณหมอบอกให้ทำใจแล้ว เลยกลับมารักษาตัวเอง และค้นหาวิธี ได้ข้อมูลมาเลยลองไปหาใบทุเรียนเทศมารักษาด้วยตัวเอง รู้สึกดีขึ้น เลยกลับไปหาหมออีกครั้ง สิ่งที่หมอได้พบ และประหลาดใจมากคือ มะเร็งระยะ 4 อาการดีขึ้น เหลือเพียงขึ้นที่ 1 ภายในเวลาเพียง 20 วัน ยาดีๆ มันก็มาจากธรรมชาติทั้งนั้น ค้นพบแล้วเราก็มองว่าเป็นธรรมดา เหมือนยาแก้แพ้ แผงละไม่กี่บาท หากยังค้นไม่พบวิธีรักษา มันก็ดูยาก ราคาก็แพง เป็นเรื่องธรรมดา อ้างอิงเรื่องของคุณทนาย ที่หายจากมะเร็ง
http://www.farmkaset.org/html5/contents.aspx?con_id=2153 ปี 2483 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ สารแอนโนนาเซียส ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ ที่มีอยู่ในทุเรียนน้ำ และสามารถต้านทำลายเซลมะเร็งทุกชนิด รวมไปถึงการฆ่าเชื่อรา และแบคทีเรียอย่างได้ผลชงัก และยังมีผลรับรองของห้องทดลองหลายแห่ง รวมทั้งสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ชีให้เห็นว่า สามารถฆ่าเซลมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
มหาวิทยาลัยแคทอลิกในเกาหลีใต้ ได้ยืนยันว่าฤทธิของทุรียนน้ำในการฆ่าเซลมะเร็งนั้น มีฤทธิ์มากกว่าการทำเคมีบำบัด หรือการทำคีโม ถึง 10,000 เท่า โดยไม่ส่งผลร้ายต่อเซลเนื้อเยื่อดีอื่นๆในร่างกาย
ซึ่งหากข้อมูลแล้วนี้ ได้รับการพิสูจน์มากขึ้นเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และผู้ป่วยหายจริง การรักษามะเร็งในอนาคต อาจจะมีความน่าตื่นเต้นน้อยลงพอๆกับการรักษาโรคภูมิแพ้ คนเป็นมะเร็งก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่อาจจะส่งผลเสียกับบริษัทยาบางแห่ง ที่กอบโกยกำไร จากการรักษามะเร็ง รายละหลายแสนทั่วโลก ล้านคน ก็มูลค่าหลักแสนล้าน ร้อยล้านคนทั่วโลกเป็นมูลค่าเท่าไร มาเป็นระยะเวลาหลายปี
ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลข่าวสาร ควรต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้นด้วยตัวเอง จากหลายๆแหล่งข้อมูล ข้อมูลจากที่นี่เพียงแห่งเดียว ไม่สามารถชี้ขาดอะไรบนโลกใบนี้ได้
ข้อให้เรื่องนี้เป็นจริง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วโลก