สองสามี-ภรรยา เกษตรกรตัวอย่างชาววังทองพลิกวิกฤตแล้ง ใช้เชือกกับขวดพลาสติกเก่าเลี้ยงมดแดงในสวนผลไม้ ขายไข่ทำรายได้ปีละเกือบแสน แถมล่าสุดมีพ่อค้าบรูไนติดต่อซื้อไข่มดแดงไปเลี้ยงนกอีก แต่ยังผลิตส่งให้ไม่ได้
ท่ามกลางภัยแล้งที่ลุกลามหลายพื้นที่ แต่เกษตรกรสองสามีภรรยา คือ นายบุญชู ศิดสันเทียะ อายุ 46 ปี และนางดาว ศิดสันเทียะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 416 หมู่ 4 บ้านดงพลวงเจริญผล ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กลับพลิกวิกฤตแล้ง ที่ใช้เนื้อที่ 7 ไร่ปลูกพืชผักผลไม้ เลี้ยงหมู ขุดบ่อเลี้ยงปลา และเลี้ยงมดแดง ขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นายบุญชูกล่าวว่า ตนประสบความสำเร็จเรื่องการเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่จากโครงการปิดทองหลังพระ และเน้นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง มาตั้งแต่ปี 2554 จากนั้นจึงนำความรู้ที่ได้ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จมาสอนและแนะนำชาวบ้านที่สนใจอยากจะยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ว่างเว้นจากการทำนา สามารถนำไข่มดแดงไปขายสร้างรายได้
สำหรับวิธีการเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่ คือนำเชือกมาผูกขึงกับต้นมะม่วงแต่ละต้น และมัดเชือกโยงให้ไปถึงกันทุกต้น จากนั้นเตรียมอาหารของมดแดง ซึ่งประกอบด้วย ข้าวสุก เนื้อปลา นมผงเด็ก ซึ่งเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นเองมาขยำผสมให้เข้ากัน แล้วจึงนำไปหย่อนใส่ปากขวดพลาสติกที่ถูกตัดดัดแปลงเอาไว้เป็นภาชนะใส่อาหารติดกับต้นมะม่วง เมื่อฝูงมดแดงได้กลิ่นอาหารก็จะพากันเดินไต่เชือกมากินอาหารที่เตรียมไว้ให้อย่างอุดมสมบูรณ์ เมื่อถึงช่วงผสมพันธุ์ของมดแดงตัวผู้และมดแดงตัวเมียก็จะตกไข่ออกมามีขนาดฟองที่ใหญ่มาก
นายบุญชูบอกว่า ไข่มดแดงที่นำไปขายนั้นถ้ามีขนาดเล็กก็ขายได้ราคากิโลกรัมละ 250 บาท ถ้าฟองใหญ่ก็ขายกิโลกรัมละ 300 บาท โดยจะมีพ่อค้าทั้งใน-นอกพื้นที่มารับซื้อนำไปประกอบอาหารกันตลอดทั้งปี ส่วนตัวมดแดงสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 250 บาท ซึ่งปีหนึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง 50,000-70,000 บาท
“ตอนนี้มีพ่อค้าประเทศบรูไนติดต่อมาขอซื้อไข่มดแดงเพื่อนำไปเลี้ยงนกแล้ว แต่ผมยังผลิตไข่มดแดงไม่ทัน”
อ้างอิง manager.co.th