นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรรายย่อยผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวม 3 โครงการ คิดเป็นยอดหนี้ทั้งสิ้นประมาณ 116,000 ล้านบาท จากจำนวนเกษตรกรรายย่อยประมาณ 8.1 แสนราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.58 - 31 มี.ค.59
สำหรับ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการปลดภาระหนี้สินให้แก่กลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีศักยภาพ หรือมีเหตุจากการเสียชีวิต, ทุพพลภาพ, เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือมีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ รวม 28,000 คน ยอดหนี้รวม 4,000 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส.จะปลดหนี้และจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีให้เป็นหนี้สูญ
2. โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่เกษตรกรที่มีศักยภาพต่ำ ซึ่งยังมีความสามารถในการประกอบอาชีพ แต่มีปัญหาในการชำระหนี้จากเหตุสุจริตและจำเป็น รวม 340,000 คน ยอดหนี้รวม 48,000 ล้านบาท โดยให้ชำระเงินต้นตามงวดที่ตกลงกัน แต่ไม่เกิน 10 ปี และปลอดชำระเงินต้นใน 3 ปีแรก แต่ ธ.ก.ส.ยังคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติ โดยหลังจากชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยได้ตามกำหนดแล้ว ธ.ก.ส.ยังร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ในการสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้เพื่อการประกอบอาชีพอื่นอีกวงเงิน 15,000 ล้านบาท ให้กู้ไม่เกิน 50,000 บาท/ราย คิดดอกเบี้ยอัตราปกติ
3. โครงการขยายเวลาชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ได้รับผลกระทบจากปัญหายางพาราตกต่ำ หรือการงดทำนาปรัง รวม 450,000 คน ยอดหนี้รวม 64,000 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส.จะขยายเวลาชำระหนี้ให้ตามศักยภาพ คิดดอกเบี้ยอัตราปกติ แต่ไม่คิดเบี้ยปรับ พร้อมกันนี้ ธ.ก.ส.ยังสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อปลูกพืชอื่นทดแทน หรือประกอบอาชีพเสริมอื่นอีก วงเงิน 35,000 ล้านบาท ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย.
จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เมษายน 2558