data-ad-format="autorelaxed">
ผักตบชวา มีโปแตสเซียมอยู่มากเป็นพิเศษ หากทำปุ๋ยด้วยการปล่อยให้แห้ง แล้วนำไปเผาเพื่อเก็บขี้เถ้าจะได้โปแตสเซียมอยู่ถึง 20% หากทำเป็นปุ๋ยหมักโดยกองสลับชั้นกับดิน
ผักตบชวาเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถนำมาทำปุ๋ยได้ดี มีโปแตสเซียมอยู่มากเป็นพิเศษ หากทำปุ๋ยด้วยการปล่อยให้แห้ง แล้วนำไปเผาเพื่อเก็บขี้เถ้าจะได้โปแตสเซียมอยู่ถึง 20% หากทำเป็นปุ๋ยหมักโดยกองสลับชั้นกับดิน ปุ๋ยคอก ขยะ จะได้ไนโตรเจน 2.05% ฟอสฟอรัส 1.1% โปแตสเซียม 2.5% และเมื่อสลายตัว ก็กลายเป็นอินทรียวัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชที่ปลูกได้เป็นอย่างดี.
ในหลายๆท้องทีเลย ทั้งต่างจังหวัด และในเมืองหลวง ที่เป็นแหล่งน้ำ หรือคูคลองระบายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครเองก็เช่นกัน ผักตบชวานับเป็นวัชพืชที่ทางหน่วนงานผู้มีหน้าที่ ปวดหัวเหลือเกิน ที่จะต้องคอยกำจัดผักตบชวานี้ เพราะมีเกิดเต็มไปทุกที่ กำจัดยาก โตเร็วเหลือเกิน
แต่ในอีกแง่หนึ่งทางวงการเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว เกี่ยวกับเรื่องของปุ๋ย การที่จะใช้ปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของโปแตสเซียมถึง 20% นั้น เป็นต้นทุนปุ๋ยที่มีราคาแพงมาก อย่างเช่นปุ๋ยสูตรเสมอยอดฮิต 15-15-15 หรือ 16-16-16 ก็มีโปแตสเซียมเพียง 15 และ 16 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารตัวหลังสูง หรือโปแตสเซียมสูง อย่างเช่น 13-13-21 หรือ 5-10-40 นั้น นับเป็นปุ๋ยสูตรสูง ที่มีราคาแพง
โปแตสเซียม เป็นธาตุอาหารส่วนที่สำคัญที่สุด ในการเร่งผลผลิต หรือเพิ่มผลผลิตของพืช เช่น เร่งข้าวให้เมล็ดเต็ม มีน้ำหนักดี เพิ่มค่าความหวานของอ้อย หรือค่า CCS และทำให้อ้อยมีน้ำหนัก เพิ่มขนาดของหัวมันสำปะหลัง หรือเพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลไม้ต่างๆ
หากมีโครงการอย่างเป็นทางการ โดยภาครัฐหรือกลุ่มทุน ที่จะนำเอาผักตบชวา ที่เป็นวัชพืชที่ต้องกำจัดตามท้องที่ต่างๆ มาเข้าขบวนการผลิต ออกมาเป็นปุ๋ยที่มีโปแตสเซียมสูง คงได้ประโยชน์ทั้งผลกำไรการค้าของผู้จัดทำ และยังเป็นประโยชน์กับสารณะ โดยการกำจัดวัชพืชให้กับเทศบาล หรือองค์กรภาครัฐอีกด้วย
อ้างอิงบางส่วนจาก : dailynews.co.th