นายกฯ ลุย ศรีสะเกษ-อุบลฯ ตรวจน้ำท่วม

ยิ่งลักษณ์ ลงพื้นที่ ศรีสะเกษ-อุบลฯ'ตรวจน้ำท่วม สั่ง ปลอดประสพ-ผู้ว่าฯ ดูแลประชาชน กำชับ ตำรวจ ป้องกันอาชญากรรมพื้นที่น้ำท่วม

                  30 ก.ย.56 นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีการเปลี่ยนแปลงภารกิจจากเดิม โดยเลื่อนภารกิจของวันนี้ออกไปก่อน เพื่อลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.ศรีสะเกษ และจ.อุบลราชธานี เพื่อรับฟังการบริหารจัดการน้ำ และลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นปัญหาประชาชน ประกอบกับจะมีพายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” ที่จะเข้าส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยตอนบน จึงต้องการที่จะลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหา โดยมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ร่วมคณะ

                 นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า จากรายงานของปภ. ระบุว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 32 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์อยู่ 25 จังหวัด ทั้งนี้ จ.ศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบภัย 22 อำเภอ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ประชาชนได้รับผลกระทบ 107,589 ครัวเรือน 515,346 คน และปัจจุบันพบว่าระดับน้ำลดลงช้า เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลสูง ขณะที่ พื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีพื้นประสบภัย 23 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 92,243 ครัวเรือน 402,810 คน ทั้งนี้ มวลน้ำจาก จ.ศรีสะเกษ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำมูล ส่งผลให้ระดับน้ำที่ อ.วารินชำราบ เพื่อขึ้นอย่างรวดเร็ว
                 นายธีรัตถ์ กล่าวต่ออีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้ นายปลอดประสพ อยู่ในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้บัญชาการส่วนหน้า ใช้ข้อมูลจาก กบอ.และ ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และเน้นยุทธศาสตร์ 2P2R ซึ่งเป็นการป้องกัน การเตรียมพร้อม การรับมือ และการฟื้นฟูเยียวยา ที่เคยให้แนวทางไว้ตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะรมว.กลาโหมได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของจังหวัด ทั้งระหว่างเกิดภัย ฟื้นฟูและการบูรณะเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่ ป้องกันคดีอาชญากรรมในระหว่างที่เกิดปัญหาน้ำท่วม และให้กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชน รวมทั้งดูแลสุขภาพจิต ของประชาชน ประกอบกับเฝ้าระวังโรคที่จะมากับปัญหาน้ำท่วม

นายกฯ” สั่งจับตาพร้อมรับมือพายุ "หวู่ติ๊บ"

          นายกฯ กล่าวถึงการรับมือพายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” ว่า มีความพร้อมในการรับมือ โดยตอนนี้ยังรอติดตามสถานการณ์อยู่ อย่างไรก็ตามอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเตรียมพร้อมเอาไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นพื้นที่มีควาเสี่ยง ก็ให้ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสลงไปตรวจพื้นที่ที่จ.ปราจีนบุรี ก็เห็นว่าทุกหน่วยงานราชการได้มารวมกันอยู่แล้ว และพร้อมที่จะบูรณาการปฏิบัติงาน
   
          ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พายุนั้นไม่เข้าทางจ.อุบลราชธานี แต่จะมาทางจ.นครพนม มุกดาหาร โดยจะเข้ามาที่ฝั่งตะวันออกของภาคอีสาน และอีสานเหนือ และจะไปสลายตัวตรงรอยต่อของภาคเหนือและภาคอีสาน โดยในพื้นที่จ.หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู จะได้รับผลกระทบ และจะไม่มาในพื้นที่อีสานตอนล่าง รวมทั้งไม่กระทบจ.ปราจีนบุรี ทั้งนี้ในเรื่องของการเก็บกักน้ำก็จะทำได้มากขึ้น
   
          น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ มีน้ำท่วม ก็จะให้รัฐมนตรี กระจายลงไปในพื้นที่เพื่อดูแลประชาชน ส่วนภาพรวมของการระบายน้ำขณะนี้นั้น ถือว่าดีขึ้น เพราะในแต่ละส่วนก็ได้เร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันส่วนที่เป็นปัญหาเฉพาะจุด ก็ได้ให้กรมชลประทาน เป็นเจ้าภาพในการดูแล และให้นำเครื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำ จากทางทหารเรือมาช่วยด้วย ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดให้มีการระบายน้ำโดยเร็ว ขณะเดียวกันเราคงต้องมองถึงประสิทธิภาพในการรับน้ำด้วยเพื่อไม่ให้มีผลกระทบ
 
ปภ.เผย น้ำท่วม 25 จังหวัด ดับแล้ว 22 ราย "นายกฯ"สั่งรับมือไต้ฝุ่น"หวู่ติ๊บ"
 
                 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 32 จังหวัด 233 อำเภอ 1,384 ตำบล 11,033 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 809,646 ครัวเรือน 2,789,398 คน บ้านเรือนเสียหาย 11,400 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,943,000 ไร่ ถนน 4,265 สาย สะพาน 174 แห่ง ฝาย/ทำนบ 515 แห่ง ผู้เสียชีวิต 22 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ พะเยา และแม่ฮ่องสอน
                 “ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 25 จังหวัด แยกเป็น น้ำป่าไหลหลาก 21 จังหวัด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ยโสธร และมุกดาหาร ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และอุทัยธานี ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และชัยนาท ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก และฉะเชิงเทรา ส่วนสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่ง 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรีและสุพรรณบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 21 อำเภอ 160 ตำบล 809 หมู่บ้าน” อธิบดี ปภ. กล่าว
                 สำหรับแนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม นายฉัตรชัย กล่าวว่า ยังต้องเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขามีระดับน้ำสูงขึ้น อีกทั้งในช่วงวันที่ 30 กันยายน 2556 พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งบางจังหวัดประสบสถานการณ์อุทกภัยอยู่แล้ว อาจส่งผลให้สถานการณ์ขยายวงกว้างมากขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งกำชับให้ ปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ จัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติและเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงสนับสนุนการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีและครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะพื้นที่ฝนตกหนักและสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

อ้างอิง : komchadluek.net

ส่งความคิดเห็น