data-ad-format="autorelaxed">
ผักชี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coriandrum sativum L.
ชื่อสามัญ : Coriander
วงศ์ : Umbelliferae
ชื่ออื่น : ผักหอม (นครพนม) ผักหอมน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ผักหอมป้อม ผักหอมผอม (ภาคเหนือ) ยำแย้ (กระบี่)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก ที่มีลำต้นตั้งตรง ภายในจะกลวง และมีกิ่งก้านที่เล็ก ไม่มีขน มีรากแก้วสั้น แต่รากฝอยจะมีมาก ซึ่งลำต้นนี้จะสูงประมาณ 8-15 นิ้ว ลำต้นสีเขียวแต่ถ้าแก่จัดจะออกเสียเขียวอมน้ำตาล ใบ ลักษณะการออกของใบจะเรียงคล้ายขนนก แต่อยู่ในรูปทรงพัด ซึ่งใบที่โคนต้นนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าที่ปลายต้น เพราะส่วนมากที่ปลายต้นใบจะเป็นเส้นฝอย มีสีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อ ตรงส่วนยอดของต้น ดอกนั้นมีขนาดเล็ก มีอยู่ 5 กลีบสีขาวหรือชมพูอ่อนๆ ผล จะติดผลในฤดูหนาว ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมโตประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ตรงปลายผลจะแยกออกเป็น 2 แฉก ตาวผิวจะมีเส้นคลื่นอยู่ 10 เส้น
ส่วนที่ใช้ : ผล เมล็ด ต้นสด
สรรพคุณ :
ผล - แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นมูก แก้ริดสีดวงทวาร มีเลือดออก แก้ท้องอืดเฟ้อ
เมล็ด - แก้ปวดฟัน ปากเจ็บ
ต้นสด - ช่วยให้ผื่นหัดออกเร็วขึ้น แก้เด็กเป็นผื่นแดงไฟลามทุ่ง
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
แก้บิดถ่ายเป็นเลือด
ใช้ผล 1 ถ้วยชา ตำผสมน้ำตาลทราย ผสมน้ำดื่ม
แก้บิด ถ่ายเป็นมูก
ใช้น้ำจากผลสดอุ่น ผสมเหล้าดื่ม
แก้ริดสีดวงทวาร มีเลือดออก
- ใช้ผลสดบดให้แตก ผสมเหล้าดื่มวันละ 5 ครั้ง
- ใช้ต้นสด 120 กรัม ใส่นม 2 แก้ว ผสมน้ำตาล ดื่ม
แก้ท้องอืดเฟ้อ
ใช้ผล 2 ช้อนชา ต้มน้ำดื่ม
แก้เด็กเป็นผื่นแดงไฟลามทุ่ง ช่วยให้ผื่นหัดออกเร็วขึ้น
ใช้ต้นสด หั่นเป็นฝอย ใส่เหล้าต้มให้เดือด ใช้ทา
แก้ปวดฟัน ปากเจ็บ
ใช้เมล็ดต้มน้ำ ใช้อมบ้วนปากบ่อยๆ
การปลูกผักชี
การเพาะปลูก การปลูก ผักชี
ผักชี เป็นพืชผักสมุนไพร มักลิ่นหอม อายุสั้นประมาณ 40-60
วัน สามารถขึ้นได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำ
ที่ดี ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผักชี เป็นผักที่ใช้ใบ ก้านใบ
และลำต้นบริโภค เป็นผักเครื่องเคียงและปรุงแต่งอาหาร ให้มีรสชาด
และกลิ่นหอมน่ารับประทาน
การเตรียมดินและการปลูก
1. ใช้จอบขุดดินเตรียมแปลงลึก 1 หน้าจอบ (15 - 20 ซม.)
2. ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักที่สลายแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากับหน้าดิน ย่อยดินให้ละเอียดแล้วรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง
3. นำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำไว้ 1 คืน
4. ควรนำเมล็ดที่แช่น้ำแล้วมานวดด้วยขวดน้ำ ให้เปลือกหุ้มเมล็ดแตก
5. นำเมล็ดลง หว่านลงบนแปลงที่เตรียมไว้
6. คลุมด้วยฟางข้าว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของหน้าดิน และรดน้ำอีกครั้ง
7. การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 20-11-11 หรือ 15-15-15
อัตรา 1 กำมือ (2-3 ช้อนแกง) หว่านทุกๆ 15 วัน ต่อขนาด
พื้นที่ปลูก 1 ตารางเมตร และรดน้ำตามทันที
8. หรือจะใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ย
วิทยาศาสตร์น้อยลงได้
9. การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
10. การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่าให้รบกวน และลุกลาม โดยเฉพาะช่วงแรกหลังหยอดเมล็ด
11. การกำจัดวัชพืชทำโดยใช้มือถอน
12. เนื่องจาก ผักชี เป็นพืชผักที่ใช้บริโภคได้ทุกส่วน ก่อนถอนควร รดน้ำให้ดินชุ่ม และควรถอนทั้งต้นและราก
ประโยชน์ของ การปลูก ผักชี
สรรพคุณของ ผักชี และวิธีใช้ จากการสำรวจรายงานต่างๆ ทั้งที่เป็นภาษาสันสกฤต หรือที่บันทึกบนกระดาษปาปิลุสของอียิปต์ และในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลพบว่า ผักชี มีประวัติใช้เป็นยาและเครื่องเทศมากกว่า 3000 ปี ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของ ผักชี คือ ใบ ก้านใบ และลูก ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้ ค่ะ
ใบ ผักชี มีสรรพคุณในทางเป็นสมุนไพรคือ จะใชัในการช่วยย่อย บำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร ขับลมขับพิษ แก้หวัด ขับเหงื่อ ช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคหัด พอกทาแก้ผื่นคัน แก้ไฟลามทุ่ง แก้ตับอักเสบ ลดการปวดบวมข้อ ต้มดื่มแก้ไอ แก้หวัด อาหารเป็นพิษ แก้สะอึก กระตุ้นการทำงานของเลือดพลาสมา และกล้ามเนื้อ มีสารต้านมะเร็ง ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และไข่ของแมลง จึงใช้ถนอมอาหาร
ลูก ผักชี แก้พิษตานซาง แก้กระหายน้ำ แก้ลมวิงเวียน แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร แก้ปวดฟัน ช่วยย่อยอาหาร ขับลม บำรุงธาตุ ต้มน้ำอาบเมื่อเป็นหัด แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ใช้ผลเตรียมน้ำมัน ผักชี ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหย หากถูกผิวนานๆอาจระคายเคืองได้
ราก เป็นกระสายยา กระทุ้งพิษไข้หัว เหือดหัด อีสุกอีใส อีดำอีแดง
กากลูก ผักชี (หมายถึงลูก ผักชี ที่สกัดเอาน้ำมันออกแล้ว) มีโปรตีน 11-17 % ไขมัน 11-20% จึงเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ดี ผงลูก ผักชี บดใช้โรยแผลกันเชื้อฝีหนองได้ นอกจากนี้แล้ว ลูก ผักชี ยังใช้เป็นเครื่องเทศผสมเครื่องแกง ผักดอง ไส้กรอก แต่งกลิ่นอาหารต่างๆโดยเฉพาะเหล้ายิน แต่งกลิ่นช็อกโกแลต โกโก้ ได้
อ้างอิง
http://myveget.com
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_18_3.htm