ชาวสวนพริกยิ้มแก้มปริราคาพุ่งพรวด

ชาวสวนพริกยิ้มแก้มปริราคาพุ่งพรวด ชาวสวนพริกยิ้มแก้มปริ-ราคาส่งพริกแกวพุ่งจากกิโลละ 8 บาท พรวดเป็นกิโลละ30-35 บาท เกษตรกรชาวสวนพริกขี้หนูในพื้นที่ ต.แควใหญ่ อ.เมืองนครสวรรค์ หลายราย ต่างมีความสุขกับการเก็บผลผลิตพริกแกวในที่สวนของตนเองส่งขายตามท้องตลาด เนื่องจากขณะนี้ พริกแกวมีราคาพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว จนสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

จากการสำรวจพื้นที่ ต.แควใหญ่ พบว่า เป็นตำบลที่ยังไม่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง และมีเกษตรกรทำผู้ทำสวนพริกขี้หนูไม่ต่ำกว่า 10 ราย โดยเฉพาะที่สวนพริกขนาด 2 ไร่ ของนางละออง พงษ์ประสิทธิ์ อายุ 43 ปี พบว่า ต้นพริกต่างออกผลผลิตงอกงามอยู่เต็มสวน นางละออง กำลังเก็บเกี่ยวพริกชนิดพริกแกวเม็ดใหญ่อยู่ภายในสวนอย่างเพลิดเพลินใจ ขณะที่บริเวณหน้าบ้านพักของนางละออง ซึ่งอยู่อยู่ติดกัน คนในครอบครัวกำลังช่วยกันคัดแยกพริกชนิดดังกล่าว เพื่อเตรียมนำออกขายสู่ท้องตลาดในวันต่อไป

นางละออง บอกหน้าบานว่า ราคาขายส่งพริกแกวตามท้องตลาดพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 30-35 บาท จากปีที่แล้วแค่กิโลกรัมละ 8 บาทเท่านั้น ถือเป็นปีทองของเกษตรกรผู้ทำสวนพริกเลยทีเดียว เนื่องจากบางรายสามารถทำยอดขายจากการขายพริกแกวได้ในห้วง 2 เดือนก่อน ถึงหลักแสนบาทแล้ว ขณะที่สวนของตนจะเก็บผลผลิตทุกวัน โดยแต่ครั้งจะสามารถเก็บผลพริกแกวได้รวมกันมากกว่า 50 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม นางละออง กล่าวต่อไปว่า การทำสวนพริกขี้หนู จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนหลังจากการปลูก จึงจะสามารถเก็บผลลิตได้ ตนลงทุนปลูกพริกมาตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 55 ประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างหนักเรื่อยมา เนื่องจากช่วงระยะเวลานั้น ราคาขายพริกตกต่ำอย่างน่าใจหาย มีราคาขายส่งเฉพาะชนิดพริกแกวเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท ไม่คุ้มต้นทุนค่าดูแล เพราะปุ๋ยและยาฆ่าแมลงมีราคาแพง ทว่า เมื่อต้นเดือนม.ค.ปีนี้ ราคาพริกแกวกลับพุ่งสูงขึ้นชนิดที่ผู้ทำสวนพริกสามารถลืมตาอ้าปาก และสร้างฐานะได้เลยทีเดียว อีกทั้ง ยังไม่ประสบกับปัญหาภัยแล้งเหมือนในพื้นที่อื่น...

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น