ชาวนาโคราชฝืนปลูกข้าวนาปรังไม่สนคำเตือน

ชาวนาโคราชฝืนปลูกข้าวนาปรังไม่สนคำเตือน
เร่งสูบน้ำกักตุน ส่งผลให้ลำน้ำมูลบางช่วงแห้งขอด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา บางส่วนต่างพากันสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อส่งเข้านาข้าวที่ฝืนทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ส่งผลให้น้ำภายในลำน้ำสาขาของลำน้ำมูลบางช่วงแห้งเหือด จนไม่เหลือน้ำอยู่ภายในลำน้ำ

ขณะที่ชาวนาบางส่วนได้ทำการสูบน้ำไปเก็บไว้ภายในสระน้ำที่ขุดขึ้นเอง เพื่อกักตุนน้ำไว้ใช้ส่งให้กับนาข้าวของตน เนื่องจากในปีนี้ชาวนาทุกรายทราบดีว่าอ่างเก็บน้ำทุกแห่งมีน้ำไม่เพียงพที่จะปล่อยให้ทำนาปรังได้เหมือนเช่นทุกๆปี แต่ก็หวังว่าน้ำที่มีอยู่จะเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงต้นข้าวไปจนกว่าจะให้ผลผลิต

จากการสำรวจของทางสำนักงานเกษตรอำเภอโชคชัย ล่าสุดพบว่าในพื้นที่อำเภอโชคชัย มีเกษตรกรชาวนาฝืนทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ ซึ่งทางสำนักงานเกษตรอำเภอได้ประกาศเตือนเกษตรกรอย่างชัดเจนแล้วว่าขอให้งดทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำมูลมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำเพื่อให้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังได้ ดังนั้นเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังโดยไม่รับฟังคำเตือนจะต้องช่วยเหลือตนเอง

ขณะที่แผนการส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมานั้น ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย อ่างเก็บน้ำลำแชะ และอ่างเก็บน้ำลำมูลบน ที่อ.ครบุรี ได้ทำการส่งน้ำลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ เพื่อรักษาระบบนิเวศน์และเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค แล้ว หลังจากที่ปิดตายมานานเกือบ 1 เดือน เนื่องจากปริมาณน้ำภายในลำน้ำธรรมชาติพื้นที่ใต้อ่างเก็บน้ำเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงอ่างเก็บน้ำลำปลายมาศที่ อ.เสิงสาง ที่ยังไม่มีการส่งน้ำออกจากอ่าง เนื่องจากปริมาณน้ำภายในลำน้ำท้ายอ่างยังคงพอมีน้ำค้างอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งแผนการส่งน้ำของทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา จะมีการประเมินสถานการณ์และเพิ่มลดปริมาณการปล่อยน้ำอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้น้ำที่เหลืออยู่ภายในอ่างเก็บน้ำมีใช้เพียงพอเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ ให้ได้ตลอดช่วงฤดูแล้ง

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น