ปลูกพริกอินทรีย์ป้อนตลาดโลก

ปลูกพริกอินทรีย์ป้อนตลาดโลก
พริกนับเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เกษตรกรนิยมปลูก แต่ถ้าปลูกเพื่อการค้ามักเจอปัญหาเรื่องต้นทุนสูง ค่าใช้จ่ายจะหมดไปจากการซื้อสารเคมี ปุ๋ยเคมี รวมถึงมีโรคแมลงรบกวน ยิ่งบางช่วงราคาพริกตกต่ำส่งผลขาดทุน มีภาระหนี้สินมากขึ้น แต่เกษตรกรไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขณะที่ความต้องการบริโภคพริกในตลาดยังคงสูงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

การใช้เชื้อราไตรโครเดอร์มา ราชั้นสูงมาทำลายเชื้อราชั้นต่ำ ที่เป็นสาเหตุทำให้พริกเป็นโรครากเน่า โคนเน่า ยอดไหม้ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ วีระ ภาคอุทัย อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำมาใช้ในแปลงปลูกพริกปลอดสารของเกษตรกรใน จ.ชัยภูมิ ซึ่งถือเป็นอีกแนวทางที่ยึดหลักการเกษตรที่ดีที่เหมาะสมหรือปลูกพริกตามมาตรฐานจีเอพี (GAP)

“สำหรับการปลูกพริกปลอดภัยเป็นชิ้นงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่เรียกว่าการจัดการห่วงโซ่อุปทานพริกสดปลอดภัย คือเกษตรกรต้องรู้และเข้าใจว่าจะปลูกพริกอย่างไรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ซึ่งห่วงโซ่นี้จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มคน 3 กลุ่ม คือ เกษตรกร พ่อค้า และผู้บริโภค ข้อดีในการปลูกพริกปลอดภัยสามารถลดต้นทุนการผลิต เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้พริกสดนำไปแปรรูปนำไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ที่สำคัญเกษตรกรมีกำไรผลตอบแทนที่ดีขึ้น และถือเป็นการตอบสนองนโยบายเรื่องครัวโลกด้วย”

ตลอด 4 ปีอาจารย์วีระนำแนวคิดการปลูกพริกปลอดภัยมาปรับใช้ในแปลงเกษตรกร จ.ชัยภูมิ เริ่มต้นจากการสำรวจแหล่งน้ำ กำหนดพื้นที่ปลูกให้ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน ไม่ใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร การเก็บรักษาและขนย้าย รวมถึงการบันทึกข้อมูลการผลิตสามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากชัยภูมิเป็นจังหวัดที่ปลูกพริกมากที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะ อ.จัตุรัส อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.คอนสาร เรียกได้ว่าปลูกกันเลี้ยงคนทั้งประเทศ

"เมื่อเกิดโรคระบาดเกษตรกรจะใช้สารเคมีเข้มข้น ซึ่งล้วนอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภค จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกษตรกรในเรื่องการปลูกพริกให้เป็นมืออาชีพ ทั้งการปลูก การศึกษาทิศทางตลาด การรวมกลุ่ม ไม่เน้นการลงแรงมาก ต้องเรียนรู้เรื่องการใช้ระบบป้องกันและการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ทั้งการใช้ยาไล่แมลงแบบธรรมชาติ การนำเชื้อราชั้นสูงมาฆ่าเชื้อราชั้นต่ำ"

นักวิจัยคนเดิมเปิดเผยต่อว่า เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการผลิตพริกปลอดภัยนั้น มีทั้งการสนับสนุนให้เกษตรกรทำปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพ ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่หาได้ง่ายในท้องถิ่น นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลี้ยงเชื้อราไตรโคเดอร์มาชนิดสด เพื่อใช้ในการควบคุมโรคพริก โดยใช้ข้าวสุกผสมหัวเชื้อราไตรโคเดอร์มา เมื่อเชื้อราเจริญเติบโตก็นำไปผสมน้ำแล้วไปรดหรือฉีดพ่นต้นพริก การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรพืช เช่น การใช้เศษพืชผักผสมกากน้ำตาล หรือสูตรสัตว์ ที่ใช้ปูนา หอยเชอรี่หมักกับกากน้ำตาล การทำสารสกัดแมลง และการทำกับดักล่อแมลง เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ ทั้งปลอดภัย และช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรด้วย

สำหรับพริกปลอดภัยของ จ.ชัยภูมิ นี้ นอกจากจะขายส่งในจังหวัดแล้ว ยังส่งไปขายตามตลาดใหญ่ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งตลาดสี่มุมเมือง ปากคลองตลาด ราชบุรี และชลบุรี รวมไปถึงตามโรงแรม โรงงาน โรงเรียน ร้านอาหาร ขณะที่ส่วนหนึ่งมีพ่อค้าคนกลางนำไปกระจายไปยังโรงงานผลิตพริกป่น โรงงานผลิตพริกน้ำปลา บางส่วนนำไปบรรจุภัณฑ์ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ โดยตลาดรับซื้อสำคัญคือญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี และฮ่องกง

การปลูกพริกอินทรีย์ โดยใช้เชื้อราไตรโครเดอร์มาแทนสารเคมี นับเป็นอีกทางเลือกของเกษตรกรที่สนใจปลูกเพื่อการค้าหลังมีตลาดรองรับไม่อั้น

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น