สืบสานผลิตผ้าไหมโบราณ

สืบสานผลิตผ้าไหมโบราณ จังหวัดสุรินทร์ ตั้งหมู่บ้าน "Thai Silk Village" ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมคุณภาพที่ใหญ่ของประเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางการค้าให้กับจังหวัดสุรินทร์ปีละเกือบ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์มี ชื่อเสียงทั้งในประเทศและทั่วโลก ว่าเป็นผ้าไหมที่มีความประณีตสวยงามและมีคุณภาพ

ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ในรูปแบบโฮมสเตย์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สืบสานการผลิตผ้าไหมโบราณ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ ราคายุติธรรม เมื่อเร็ว ๆ นี้รองพ่อเมืองคนเก่งแห่งเมืองสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข ก็ได้เป็นประธานในพิธีเปิดหมู่บ้านผลิตผ้าไหม (Thai Silk Village) เพื่อการท่องเที่ยว ในรูปแบบโฮมสเตย์ ณ บ้านประทุน ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ และบ้านหม่อนไหมพัฒนา ตำบลแจนแวน อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภูมิปัญญาไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

นายพิภพ กล่าวว่า ผ้าไหมจังหวัดสุรินทร์ สามารถสร้างมูลค่าทางการค้าให้กับจังหวัดสุรินทร์ปีละเกือบ 1,000 ล้านบาท ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้มีนโยบาย ในการพัฒนาผ้าไหม โดยได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาจังหวัด เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนตั้งแต่กระบวนการผลิต ซึ่งต้องการให้มีคุณภาพ และแตกต่างจากผ้าไหมทั่ว ๆ ไป เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม แบบวิถีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี หรือพยายามใช้น้อยที่สุด เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ไม่เป็นพิษเป็นภัย หรือมีผลข้างเคียงกับผู้บริโภค ภายใต้คำขวัญว่า “วิถีสุรินทร์ วิถีธรรมชาติ” รวมทั้งสนับสนุนการเปิดหมู่บ้านผลิตผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยว ในรูปแบบโฮมสเตย์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภูมิปัญญาไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ปัจจุบันจังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการเปิดหมู่บ้านผลิตผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยว ในรูปแบบโฮมสเตย์ จำนวน 4 หมู่บ้าน ได้ แก่ หมู่บ้านท่าสว่าง หมู่บ้านนาตรัง หมู่บ้านประทุน และหมู่บ้านหม่อนไหมพัฒนา และจะเร่งดำเนินการส่งเสริมหมู่บ้านอื่น ๆ

ที่มีการผลิตผ้าไหม ให้เป็นหมู่บ้านผลิตผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยว ในรูปแบบโฮมสเตย์ต่อไปจนครบทั่วทั้งจังหวัดในเวลาระยะอันใกล้นี้

ทั้งนี้ การเปิดหมู่บ้านผลิตผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักที่ต้องการมีรายได้จากการเปิดเป็นโฮมสเตย์ แต่ต้องการเปิดรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกระบวนการผลิตผ้าไหมที่มีการสืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ และรุ่นปัจจุบันก็ยังได้ทำอยู่ รวมถึงเยี่ยมชมกระบวนการผลิตผ้าไหมซับซ้อน ออกมาเป็นชิ้นงานที่ประณีตสวยงาม และราคายุติธรรม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดสุรินทร์ เช่น หมู่บ้านหม่อนไหมพัฒนา มี 2-3 ชาติพันธุ์ อาทิ กุย หรือส่วย จะมีการผลิตผ้าไหมย้อมมะเกลือ และมีกระบวนการผลิตซับซ้อน 1 ผืนใช้เวลาย้อมเป็นเดือน เป็นผ้าที่ใช้ไหมอ่อน เส้นเล็ก เมื่อนำไปทอเนื้อผ้าไหมไม่หนา นุ่ม เย็นสบาย

...ขอเชิญชวนมาเที่ยวหมู่บ้านผลิตผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ สามารถเดินทางมาเช้าไป เย็นกลับ หรือพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจ ทั้งเรื่องคุณภาพสินค้า และความปลอดภัยอย่างแน่นอน.

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น