data-ad-format="autorelaxed">
อนาคตตลาดกาแฟไทยยังสดใส ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเพิ่มสูง ปัจจุบัน ความต้องการบริโภคกาแฟของคนไทยเริ่มมีสูงมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย เมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรหรือ สศก. ได้พยากรณ์เนื้อที่ผลผลิตกาแฟใน ปี 2556 ดังนี้ เนื้อที่ให้ผลผลิตกาแฟจะมีประมาณ 283,100 ไร่ ลดลงจากปี 2555 จำนวน 23,012 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 7.52 ผลผลิต 40,470 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 991 ตัน หรือลดลงร้อยละ 2.39 และผลผลิตต่อไร่ เฉลี่ยไร่ละ 143 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8 กิโลกรัมต่อไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.93 ทั้งนี้เนื่องจาก เนื้อที่โค่นทิ้งกาแฟโรบัสตาในภาคใต้ มีเพิ่มขึ้น จังหวัดที่โค่นมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดชุมพร จำนวน 24,827 ไร่ ระนอง จำนวน 6,934 ไร่ และสุราษฎร์ธานี จำนวน 1,292 ไร่ แต่สำหรับ เนื้อที่อาราบิกาในภาคเหนือเพิ่มขึ้นเป็น 50,350 ไร่ โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 11,465 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.48 ผลผลิต 8,220 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2,075 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.77 เนื่องจากกาแฟเริ่มให้ผลผลิตในปีแรกและภาครัฐและเอกชน มีการส่งเสริมพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการและราคาอยู่ในเกณฑ์ดี
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวว่าสำหรับ ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของไทยในปี 2555 พบว่า คาดการณ์ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟในปี 2555 ของโรงงานแปรรูปในประเทศ จะมี 67,620 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 61,480 ตัน ของปี 2554 ร้อยละ 9.99 เนื่องจากการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเปรียบเทียบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2551พบว่า ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงานมีเพิ่มขึ้นตลอด ดังนี้ ปี 2551 ความต้องการ 53,479 ตัน ปี 2552 ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงานมี 53,803 ตัน ปี 2553 ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงาน 58,000 ตัน ปี 2554 ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงานมี 61,480 ตัน และ ปี 2555 ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงาน 67,620 ตัน
สำหรับการส่งออกกาแฟของไทย 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ของปี 2555 มีการส่งออกเมล็ดกาแฟปริมาณ 1,930.77 ตัน มูลค่า 156.43 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 599.30 ตัน มูลค่า 83.33 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 3 เท่า และ 2 เท่า ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการส่งออก 2,363.05 ตัน มูลค่า 376.34 ล้านบาท ลดลงจาก 3,230.58 ตัน มูลค่า 451.80 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 27 และร้อยละ 16 ตามลำดับ และไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 486.45 ตัน มูลค่า 62.86 ล้านบาท ลดลงจากปริมาณ 2,701.75 ตัน มูลค่า 232.73 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 82 และ 73 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการนำเข้าปริมาณ 2,029.86 ตัน มูลค่า 608.60 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 1,400.73 ตัน มูลค่า 380.79 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 5 และ ร้อยละ 60 ตามลำดับ
สำหรับ ภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ ล่าสุดองค์การกาแฟระหว่างประเทศ (ICO) รายงานการส่งออกกาแฟในช่วง 6 เดือนแรก (ต.ค. 54-มี.ค. 55) ของปีเพาะปลูก 2554/55 มีปริมาณ 3.10 ล้านตัน ลดลงจาก 3.17 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 2.3 สำหรับในเดือนมีนาคม ปี 2555 มีปริมาณการส่งออกกาแฟโลก 0.59 ล้านตัน ลดลงจาก 0.64 ล้านตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 6.70 ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้พยากรณ์การบริโภคกาแฟของเวียดนามในปี 2555 -56 จะมีประมาณ 109,800 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 102,000 ล้านตัน ในปี 2554/55 และคาดว่าผลผลิตเมล็ดกาแฟในปี 2555/56 จะมี 1.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นและมีการลงทุนในการผลิตเพิ่มขึ้น ในเดือนกันยายน 2555 คาดว่าจะมีสต๊อกเมล็ดกาแฟ ประมาณ 30,600 ตัน เนื่องจากเกษตรกรกักตุนผลผลิตกาแฟไว้เพื่อรอราคาสูงขึ้น
ส่วนราคากาแฟโรบัสตาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคากิโลกรัมละ 63-64 บาท เนื่องจากมีความต้องการกาแฟโรบัสตาเพื่อทำกาแฟสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและพัฒนาของเวียดนาม รายงานว่า การส่งออกกาแฟของเวียดนามใน 7 เดือนแรก ปี 2555 (ต.ค. 54-เม.ย. 55) มีจำนวน 928,000 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.85 เฉลี่ยราคาส่งออกเมล็ดกาแฟของเวียดนาม ใน 7 เดือนแรก (ต.ค. 54-เม.ย.55) กิโลกรัมละ 61 บาท ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา.
อ้างอิง:www.dailynews.co.th