เอทานอล เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

เอทานอล เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ปัจจุบันประเทศไทยนับเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก เช่น ข้าว ยางพารา เป็นต้น และยังมีศักยภาพที่จะผลิตพืชพลังงานอีกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลัง หรือปาล์มน้ำมัน ดังจะเห็นได้จากผลผลิตอ้อยในปี 2555 ที่มีสูงถึง 98 ล้านตัน แต่ใช้บริโภคภายในประเทศเพียง 23 ล้านตัน ในขณะที่ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังมีจำนวน 25 ล้านตัน แต่ใช้บริโภคในประเทศเพียง 7 ล้านตัน ซึ่งมีเหลือมากพอที่จะนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งแปรรูปเป็น “เอทานอล” พลังงานทดแทนที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเอทานอลก็ยังไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ทั้งที่กำลังการผลิตเอทานอลของไทยมีมากพอที่จะส่งออกได้ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าเอทานอลในภูมิภาคอาเซียน

ล่าสุด ทางคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ปี 2550 ได้เตรียมจัดงานเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “เอทานอล : อนาคตพลังงานทดแทนไทยยุทธศาสตร์ความมั่งคั่งและมั่นคงของชาติ” เพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความจำเป็นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเอทานอลจากน้ำตาลและมันสำปะหลังที่ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าในภูมิภาคอาเซียน และเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการค้าเอทานอลของประเทศร่วมกัน

สำหรับการเสวนา “เอทานอล : อนาคตพลังงานทดแทนไทย” จะมีผู้แทนทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมอภิปราย ได้แก่ ตัวแทนจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คุณณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คุณประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงาน บริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด

โดยจะมีทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้ประกอบการ และสมาคมที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เข้าร่วม

ทั้งนี้ การจัดเสวนา จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2555 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เวลา 10.30–14.00 น.

อ้างอิง:wwww.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น