เทคโนโลยีใช้เพื่อยกระดับ และสนับสนุนงานด้านเกษตร ใช้อำนวยความสะดวก ใช้เพื่อการตลาด เทคโนโลยี มีไว้เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกงานด้านอื่นๆ ให้คล่องตัวขึ้น เพียงเท่านั้น
เมื่อราวๆปี 2008 ก่อนที่จะมี FarmKaset.ORG ตอนนั้นเราทำงานกันอยู่ในบริษัทในกรุงเทพฯ คุณปริมทำงานอยู่ในบริษัททางด้านเทคโนโลยี ที่นับได้ว่าใหญ่เป็นอันดับต้นๆในประเทศไทย ส่วนผมทำงานในบริษัทญี่ปุ่น รายใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ยี่ห้อดัง และรับวางระบบ IT ให้องค์กรต่างๆ ต่อมาย้ายมาอยู่บริษัทที่เป็น Partner กับ Sun Microsystems และ บริษัทที่เป็น Partner กับ IBM ตามลำดับ
หน้าที่ที่รับผิดชอบ เป็นการวางระบบต่างๆให้กับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หรือระบบ Backend ให้กับธนาคาร
ก่อนหน้านี้เราเคยพัฒนา Software ประเภทที่เรียกว่า Desktop Management ซึ่งเอาไว้บริหารจัดการคอมพิวเตอร์จำนวนมากในองค์กร และจัดจำหน่ายอยู่ระยะหนึ่ง โดยการ Coding ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่บรรทัดแรก
แต่ตลอดเวลาที่เราอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เราไม่ได้รู้สึกถึงความสุขของการใช้ชีวิตประจำวันสักเท่าไร ทั้งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย กับเทคโนโลยีรอบตัว เราไม่รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ
คำว่าธรรมชาติในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า ต้นไม้ ภูเขา ทะเล แต่คือธรรมชาติ ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตของมนุษย์ ปุถุชน หรือความสบายกาย สบายใจ แบบที่คนในต่างจังหวัดเขามีกัน
ตอนที่รถติดบนถนน 2 ชั่วโมงกว่า ในทุกๆเช้า เราถามกับตัวเองว่า คนต่างจังหวัด ต้องอดทนกับเรื่องนี้หรือไม่ ตกลงแล้วใครเป็นคนที่น่าสงสาร
วันหยุดยาว เราออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งแน่นอน เราวิ่งเข้าหา ต้นไม้ ภูเขา ทะเล ซึ่งจริงๆมันมีทุกที่ ยกเว้นกรุงเทพฯ
ผมคิดวนไปวนมา ก็สรุปว่า "ทำไมเราถึงเป็นคนโง่ที่น่าสงสารแบบนี้"
ตอนเด็กๆ เราอยู่กับพ่อแม่ ที่ต่างจังหวัด เราไม่เคยเห็นใครต้องลำบากแบบนี้เลย ไม่ต้องทนรถติด มีการดำเนินชีวิตที่ เรียบง่าย ช้าๆ มีความสุข ในทุกๆวัน เงินทองก็ใช้จ่ายอย่างสบาย มีธรรมชาติใกล้ตัว อากาศดี
แสดงว่า "วิธีคิดของเราน่าจะมีปัญหา"
เราเริ่มคิดกันใหม่ โดยเปลี่ยนขบวนการคิดตั้งแต่ต้น โดยไม่เอาองค์ความรู้เดิมเข้ามาเกี่ยวข้อง เราทบทวนกันนาน และสรุปว่า เราควรจะใช้ชีวิตในต่างจังหวัด ที่ที่ไม่ต้องเสียเวลาบนถนน ไปกลับ วันละ 4 ชั่วโมง เราจะมีเวลาดีๆเพิ่มขึ้น มากถึงวันละ 4 ชั่วโมง และงานด้านเกษตร เป็นสิ่งที่เราสนใจมากที่สุด จึงได้เกิดเป็น FarmKaset.ORG
เดิมทีเราไม่มีความคิดเลย ที่จะเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาใช้ในองค์กร
ในตอนต้นเราต้องการรวบรวมองค์ความรู้เพื่อศึกษา และความรู้ต่างๆ เราก็จัดเก็บไว้บนเว็บ Blogger ด้วยเหตุผลที่เก็บง่าย เข้าอ่านได้ง่าย ค้นหาง่ายน่าจะเป็นที่เก็บข้อมูลได้ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่ายกว่าการทำเอกสารที่ FarmKaset.Blogspot.com ซึ่งปัจจุบันก็ยังออนไลน์อยู่
แต่ข้อมูลองค์ความรู้ด้านเกษตรที่เรารวบรวมไว้ กลับได้รับความสนใจจากบุคคลอื่นๆ ที่สนใจด้านเกษตรด้วย ซึ่งในตอนต้นเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย และเราได้รับการติดต่อจากบริษัทที่จัดจำหน่ายปัจจัยการผลิตด้านเกษตรกรรม และได้เข้าไปพูดคุยกัน และยื่นข้อเสนอให้เราจัดจำหน่ายสินค้าเกษตร ซึ่งเราก็ตกลง และทำการจัดจำหน่าย
โดย native ของเรา ไม่ได้มีความรู้ด้าน selling และ marketing เลย เรามาจาก Programmer และ Computer Systems Engineer เราไม่รู้หรอก ว่าจะขายสินค้าเกษตรได้อย่างไร ทางบริษัทผู้ผลิต ก็พยายามสอนให้เราไปขายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเราไม่ชอบเลย
บังเอิญเราไปได้ยินคำหนึ่งว่า "กลยุทธน่านน้ำสีขาว" หรือ White ocean strategy คือไม่รู้จะสรุปคำๆนี้ว่าอะไรดี ตามที่ผมเข้าใจคือ "การทำธุรกิจโดยไม่มุ่งหวังผลกำไรขององค์กรเพียงอย่างเดียวเป็นหลัก แต่ให้นึกถึง บุคคลในองค์กร และประโยชน์ที่เป็นสาธารณะแก่บุคคลทั่วไปด้วย" ฟังดูเท่ดีนะ ผมเริ่มชอบวิธีนี้แล้ว
เราก็เลยไปจดโดเมนเนม FarmKaset.ORG ต่อจุดความรู้เก่าที่พับเก็บไว้ Coding เว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เป็นระบบ Contents องค์ความรู้ด้านเกษตรกรรม ที่สืบค้นข้อมูลได้ง่าย และเปิดให้ทุกคนใช้ฟรี และทำเว็บบอร์ดด้านการเกษตร ที่ให้ผู้คนได้มาพูดคุย ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า โดยเราไม่เอาประโยชน์ใดๆ จากผู้มาโพสซื้อขายบนเว็บไซต์เรา ซึ่งหากเป็นโดยทั่วไป เขาคงมองว่า เป็นคู่แข่งกัน แต่เราไม่คิดอย่างนั้น
เราคิดว่า หากผู้ใช้งานพึงพอใจใน Contents ที่เรารวบรวม หรือนำเสนอ เขาก็คงช่วยซื้อสินค้าเราเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น (บางครั้งรับรู้เลย ว่าลูกค้าไม่ได้ต้องการมากหรอก แต่ก็ซื้อช่วยเราเฉยๆ)
ตอนนี้เราวางระบบหลังบ้านไว้มากมายพอสมควร เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ที่สนใจด้านเกษตรกรรม
ในภาพประกอบ คุณปริมใช้ Desktop Management นั่งมอนิเตอร์ดู และสอนการทำงานของลูกน้อง ที่กำลังฝึกใช้ระบบ e-commerce ที่เราให้บริการลูกค้าอยู่
ตอนนี้ฟาร์มเกษตรเรากำลังทดลองเพาะพันธุ์พืชต่างๆ นานาชนิด และเหมือนเดิม เราไม่ได้มุ่งกำไรเป็นหลัก โดยการทำพืชเชิงเดียว เหมือนทั่วไป
แต่เราพยายามทดลองปลูกพืชที่บุคคลทั่วไปสนใจ เพื่อที่จะให้รู้จริง เรื่องการเจริญเติบโตของพืชที่ผู้คนสนใจในแต่ละชนิด รู้วิธีการดูแลให้เจริญเติบโตด้วยวิธีทำลอง ทดลองปลูกจริง เพื่อที่จะสร้างองค์ความรู้ จากประสบการณ์จริง เพื่อเผยแพร่ความรู้จากการทดลอง ให้เป็นประโยชน์ต่อวงการเกษตรไทย
เป้าหมาย ของเรานั้นอีกยาวไกล วันนี้เราเพิ่งจะเดินมาถึง หลักกิโลเมตร ที่ 10 จาก 100 ที่เราต้องเดินไป
เดินช้าๆ.. แต่หย่าหยุด. นะครับพี่น้องชาวเกษตร เราจะเดินไปด้วยกัน