คลิป สหรัฐ ส่งระบบป้องกันขีปนาวุธเพดานสูง เกาะกวม
เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3
สงครามจะเกิดหรือไม่ ยากเกินคาดเดา
ประธานาธิบดี คิม จอง อึน (Kim Jong Un) ของประเทศเกาหลีเหนือ ปัจจุบันเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในเกาหลีเหนือ ด้วยวัยเพียงยีสิบกว่าปี เป็นผู้นำทายาททางการเมืองรุ่นที่ 3 นับจาก คิม อิล ซุง ปู่ผู้สร้างประเทศเกาหลีเหนือในระบอบการปกครองที่เรียกว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และ คิม จอง อิล ผู้เป็นพ่อผู้สานต่อนโยบาย เกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่งอนง้อพืึ่งพาใคร เป็นลัทธิที่เรียกว่า ลัทธิจูเช หรือ นโยบายการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ และนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ใช้นโยบาย กองทัพต้องมาก่อน หรือ ซอนกุน และนอกจากนั้นเกาหลีเหนือยังเป็นประเทศที่มีนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง มีกองทัพที่ทรางแสนยานุภาพด้วยกำลังทหาร 1,200,000 คน ซึ่งเป็นกองทัพที่มีกำลังทหารมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และด้วยวัยของผู้นำ ที่ก้าวเข้าสู่อำนาจ กับกอบทัพที่มีแสนยานุภาพมาก อีกทั้งยังมีนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เราไม่อาจคาดเดาได้ว่า ผู้นำวัยหนุ่มที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยว และกำลังฮึกเหิมอยู่ตอนนี้ จะตัดสินใจเปิดฉากสงครามที่จะสะเทือนไปทั้งโลกในวันไหน
เกาหลีเหนือประกาศพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐอเมริกา
เป็นที่หวาดหวั่นไปทั่วโลก เมื่อประเทศเกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี คิม จอง อึน ประกาศกร้าวพร้อมโจมตีฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ข้ามผ่านมายังคาบสมุทรเกาหลีในการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้น เมื่อเกาหลีเหนือออกมาประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามกับเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องส่งเครื่องบินขับไล่รุ่น เอฟ-22 แร็ปเตอร์ ไปประจำที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในประเทศเกาหลีใต้
เกาหลีเหนืออนุมัติแผนการใช้อาวุธนิวเคลียร์
จากนั้น เมื่อวันที่ 4 เมษายน รัฐบาลเกาหลีเหนือได้อนุมัติแผนการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อโจมตีเป้าหมายในสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า เวลาแห่งสงครามใกล้มาถึงแล้ว แต่ทางฝั่งสหรัฐอเมริกายังเชื่อว่านี่เป็นเพียงแค่คำขู่ของโสมแดงเท่านั้น พร้อมกับออกแถลงการณ์เตือนให้เกาหลีเหนือหยุดการข่มขู่ และการยั่วยุดังกล่าวเสียที แต่ถึงกระนั้น ทางสหรัฐอเมริกาก็ได้เตรียมติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธแบบ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) บนเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อป้องกันฐานทัพสหรัฐฯ จากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ
หวั่นเกิดส่งครามเกาหลีเหนือ-สหรัฐอเมริกา
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนทั่วโลกพากันจับจ้องว่า จะเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ขึ้นหรือไม่ และหากเกิดสงครามจริง ๆ เกาหลีเหนือจะสามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาได้แค่ไหน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า แสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ (ข้อมูลจาก globalfirepower.com) โดยมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพเตรียมพร้อมรบเป็นจำนวนมาก ขณะที่เกาหลีเหนือก็ถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเตรียมกำลังไว้พร้อมรบตลอดเวลาเช่นกัน โดยเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารในลำดับที่ 28
ทั้งนี้ รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 ได้ยกแสนยานุภาพทางการทหารของสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ขึ้นมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่า สหรัฐอเมริกา-เกาหลีเหนือ จะสามารถเป็นคู่ต่อกรกันได้หรือไม่ โดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ให้ข้อมูลเรื่องกองทัพสหรัฐอเมริกาไว้ว่า...
แสนยานุภาพกอบทัพสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน กองทัพสหรัฐฯ ตั้งฐานทัพอยู่ใน 156 ประเทศทั่วโลก รวมแล้ว 700 - 800 แห่ง มีกำลังพลประจำฐานทัพต่าง ๆ กว่า 255,065 คน ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาเองนั้น ก็มีฐานทัพและคลังแสงรวมถึง 6,000 แห่ง จึงมีกำลังพลในประเทศและต่างประเทศ รวมกันกว่า 1,400,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นทหารอเมริกันในต่างแดน 325,000 คน กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา เอเชีย อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,258 คน ประเทศญี่ปุ่น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,045 คน ส่วนประเทศไทยเองก็มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 113 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบกำลังพลของสหรัฐอเมริกาที่พร้อมปฏิบัติการเมื่อเกิดสงครามแล้ว จะมีอยู่ทั้งสิ้น 1,139,034 คน ขณะที่กองกำลังเสริมจะมีราว 1,458,500 คน
ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกานั้น จากข้อมูลในเว็บไซต์ globalfirepower.com ระบุว่า อาวุธยุทโธปกรณ์หลัก ๆ ประกอบด้วย
- รถถัง 8,325 คัน
- รถถังประจัญบาน 1,934 คัน
- รถถังหุ้มเกราะ 18,539 คัน
- รถขนอุปกรณ์ 106,407 คัน
- ปืนใหญ่ 1,791 กระบอก
- ปืนเจาะเกราะรถถัง 28,000 กระบอก
- เครื่องยิงจรวด 1,330 ชุด
- เครื่องบินรบ 15,293 ลำ
- เฮลิคอปเตอร์ 6,665 ลำ
- เรือรบ 290 ลำ
- เรือรบฟริเกต 24 ลำ
- เรือพิฆาต (Destroyers) 61 ลำ
- เรือดำน้ำ 71 ลำ
- เรือบรรทุกเครื่องบินรบ 10 ลำ
- เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 12 ลำ
- เรือทุ่นระเบิด 14 ลำ
- ฯลฯ
แสนยานุภาพกองทัพเกาหลีเหนือ
ฟากโสมแดง เกาหลีเหนือ ขณะนี้มีกำลังพลพร้อมรบที่ประจำการอยู่แนวหน้าแล้ว 1,106,000 คน และมีกองกำลังสำรองที่พร้อมเข้าสู่สมรภูมิอีก 8,200,000 คน ขณะที่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกาหลีเหนือมีใช้นั้น หลัก ๆ ประกอบด้วย
- รถถัง 5,400 คัน
- รถถังประจัญบาน 2,580 คัน
- รถถังหุ้มเกราะ 1,600 คัน
- รถขนอุปกรณ์ 38,000 คัน
- ปืนใหญ่ 3,500 กระบอก
- ปืนเจาะเกราะรถถัง 17,000 กระบอก
- เครื่องยิงจรวด 1,600 ชุด
- เครื่องบินรบ 1,667 ลำ
- เฮลิคอปเตอร์ 237 ลำ
- เรือรบ 708 ลำ
- เรือรบฟริเกต 3 ลำ
- เรือดำน้ำ 70 ลำ
- เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 471 ลำ
- เรือทุ่นระเบิด 23 ลำ
- ฯลฯ
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังมีขีปนาวุธที่มีรัศมีทำการแตกต่างกัน 4 ชนิด คือ ขีปนาวุธโนดอง รัศมีทำการ 1,000 กิโลเมตร, ขีปนาวุธ แตโปดอง-1 รัศมีทำการ 2,200 กิโลเมตร, ขีปนาวุธมูซูดาน รัศมีทำการ 4,000 กิโลเมตร และขีปนาวุธ แตโปดอง-2 รัศมีทำการ 6,000 กิโลเมตร
เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่น่ากลัวคือกองกำลังของเกาหลีเหนือก็มีจำนวนมากกว่าทางสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ก็หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงคำขู่ ไม่นำพาไปสู่การเกิดสงครามจริง ๆ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คนหลายพันล้านคนทั่วโลกคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบอย่างมากมายที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ได้