ปลูกจิตเยาวชนล่าหู่ เพาะวิถีเกษตรผสมผสาน

ปลูกจิตเยาวชนล่าหู่ เพาะวิถีเกษตรผสมผสาน ทั้งที่อยู่กับธรรมชาติ ใกล้ชิดแปลงปลูกพืชมาตั้งแต่เกิด แต่ลูกหลานชาวเขาในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ หาได้ยากนักที่จะเข้าถึงวิถีเกษตรยั่งยืน ยังคงสืบสานวิถีเกษตรตามลัทธิเอาอย่าง ทำเกษตรเชิงเดียว เคยปลูกอะไรก็ปลูกอย่างนั้นทั้งปี จนดินเสื่อมดินทรุด สุดท้ายต้องบุกป่าสร้างที่ทำกินใหม่ ไม่เพียงจะสร้างปัญหาในระดับชาติ ยังสร้างปัญหาให้ตัวเองอีกต่างหาก...อย่างที่บ้านป่าคา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แม้จะอยู่ไม่ไกลจากความเจริญของตัวอำเภอเท่าไร แต่สุขภาพการเจริญเติบโตของเด็กชาวเขาเผ่าล่าหู่ หรือมูเซอดำ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก จนภาครัฐ เอกชน ต้องเข้ามาร่วมกันบูรณาการบรรเทาปัญหา “การจะปลูกฝังเกษตรกรให้หันมาทำเกษตรผสมผสานเพื่อเด็กจะได้มีกินอย่างยั่งยืน ต้องใช้วิธีปลูกจิตนิสัยกับเด็กที่โรงเรียน ถึงจะเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผล”

จ.ส.ต.ญ. เกสสุดา นันแก้ว ครู ร.ร.ตำรวจตระเวนชายแดน อาโอยม่า เล่าถึงที่มาของความร่วมมือระหว่าง โครงการตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ที่ได้มาสร้างอาคารโรงเรียนสีเขียว (Green school) หลังใหม่ พร้อมโรงเพาะเห็ด ที่เต็มไปด้วยก้อนเห็ดขอนขาว นางรม นางฟ้า เห็ดหอม เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก นอกจากจะได้รู้วิธีเพาะเห็ด ยังได้เอาไปทำอาหารให้เด็กได้กินอิ่มกันแบบสดๆ และแปรรูปทำเห็ดส้ม แก้ปัญหาโภชนาการได้เป็นอย่างดี ร.ท.คันธนิธิ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานด้านธุรกิจสัมพันธ์บริษัทปูนอินทรี บอกว่า โรงเพาะเห็ดที่สร้างขึ้นไม่ได้มีเป้าหมายแค่เพื่อเป็นอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกอาชีพที่เด็กจะได้นำไปใช้หลังจบการศึกษา เพราะเด็กส่วนใหญ่จะไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ

แต่การปลูกฝังวิถีเกษตรยั่งยืนไม่ได้มีแค่เรื่องเห็ด ยังคงยึดตามโครงการตามแนวพระราชดำริฯ ที่มุ่งสอนเด็กให้รู้จักการปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ไข่ ปลา หมู ที่ซื้อจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง จะดีกว่าไปซื้อพันธุ์จากพ่อค้าในพื้นราบ เพราะเลี้ยงได้ไม่นานก็ตาย เนื่องจากทนสภาพอากาศบนดอยไม่ไหว สอนให้รู้จักนำผลผลิตส่งเข้าสหกรณ์โรงเรียน เพื่อส่งเข้าโครงการเกษตรอาหารกลางวัน หัดให้เด็กได้รู้จักการทำบัญชีต้นทุน รายรับ-รายจ่าย สอนวิธีการปลูกพืช สิ่งเหล่านี้เด็กจะนำกลับไปเล่าต่อให้พ่อแม่ฟังตลอด เมื่อบ่อยครั้งเข้าคำบอกเล่าของเด็กจะกลายเป็นการขยายพันธุ์จิตนิสัยวิถีเกษตรยั่งยืนไปสู่ผู้ใหญ่ได้อย่างไม่รู้ตัว”.

อ้างอิง:www.thairath.co.th

ส่งความคิดเห็น