data-ad-format="autorelaxed">
ปีสองปีที่ผ่านมานี้ นับได้ว่าเป็นช่วงที่ ข้าว ราคาตกต่ำเป็นอย่างมาก ชาวนา คนทำนาปลูกข้าว แทบไม่เหลือกำไรในการปลูกข้าวขายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว คนที่ทำนาในระบบจ้าง ไม่ได้ทำนาแบบทำกันเองในครอบครัว
ในภาพรวมทั้งประเทศดูเหมือนว่า ภาครัฐ จะเผชิญกับปัญหาข้าวล้นตลาด ราคาตกต่ำ และยังหาวิธีที่สุดไม่ได้ ที่จะช่วยเกษตรกรผู้ทำนาข้าว ให้มีรายได้สูงขึ้น หรือขายข้าวให้ได้ในราคาสูง เหมือนคล้ายๆ เคยได้ยินผ่านหูผ่านตา ผ่านทางช่องข่าวในทีวีว่า รัฐ อยากให้เกษตรกรลดพื้นที่การปลูกข้าวลง และหันไปปลูกพืชอื่นๆแทน ที่ราคาท้องตลาดสูงกว่านี้ หรือ อยากทานอะไร ก็ปลูก ไม่ต้องไปซื้อเขากิน และยังมีการสนับสนุน ให้เกษตรกร เปลี่ยนจากการปลูกข้าว ลองหันมาปลูกอ้อย ที่มีกำไรต่อครอป ต่อพื้นที่สูงกว่า
ดูๆไปแล้ว อ้อย หรือการทำไร่อ้อย ก็เป็นอีกพืชหนึ่งที่น่าสนใจ อ้อย เป็นพืชที่มีสมาคมรองรับ และมีโรงงานน้ำตาลที่คอยรับซื้อ ถ้าเราลองสังเกตุ หรือศึกษาดู เมื่อเปรียบเทียบเกษตรกรที่ปลูกพืชต่างๆแล้ว ดูเหมือนว่า เกษตรกรที่ปลูกอ้อย จะมีรายได้สูงเป็นลำดับต้นๆเลยก็ว่าได้ ดูอย่างจังหวัดไหน อำเภอใดมีโรงงานน้ำตาลตั้งอยู่ สภาพเศรษฐกิจจังหวัดนั้นก็ดูเหมือนจะดี เกษตรกรมีเงินเยอะ ใช้จ่ายคล่อง ก็เลยนำพาให้ธุรกิจอื่นๆ ได้รับอานิสงส์ ค้าขายดีกันไปด้วย อย่างในอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดร มีโรงน้ำตาล ลองขับรถเข้าไปเล่นๆดู จะเห็นเต็นรถมากมาย ร้านทองเปิดกันถี่ๆ ผู้คนก็คึกคัก ดูเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจ โตกว่าตัวจังหวัดเล็กๆ บางจังหวัดเสียอีก
ผ่านมาเร็วๆนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย ได้ลองประเมินทิศทาง และราคาพืชอ้อยของไทย ในช่วงปี 2560-2561 พบว่าอ้อย นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกได้อย่างไม่น้อยเลยทีเดียว ทราบว่าโรงงานน้ำตาลทราย ก็มีแผนที่จะเปิดตามจังหวัดต่างๆ และชักชวนให้เกษตรกรที่ทำนา และทำไร่มันสำปะหลัง ลองหันมาปลูกอ้อยดู สำหรับท่านที่มีโอกาส และพื้นที่ที่มีอยู่ สามารถปลูกอ้อยได้ จะลองเปลี่ยนมาปลูกอ้อย ในช่วงที่ราคาข้าวไม่สูงแบบนี้ หากพอมีความรู้ อยากลองทำดู อาจจะสร้างรายได้มากกว่าเดิมก็ได้
ไม่เสียหาย..