data-ad-format="autorelaxed">
สอน.ไม่หวั่นศึกนอกบราซิลฟ้อง WTO หลังการเจรจามีทิศทางดี ยังไม่ตั้งคณะผู้พิจารณา นำไปสู่การไต่สวน ห่วงแต่ศึกในกลุ่มโรงงานน้ำตาลทราย เตะตัดขาแก้พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายล่าช้า ไม่ทันกรอบเงื่อนเวลาที่ให้ไว้ใน 1 ปี ขณะที่ผู้ประกอบการยังโวยต่อเนื่องยกเลิกระบบโควตา โอกาสเกิดน้ำตาลทรายขาดตลาดสูง จากการหันไปส่งออกแทน
นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง ความคืบหน้าในการเจรจากับทางบราซิลในฐานะเป็นผู้ฟ้องต่อ องค์การการค้าโลก(WTO) กรณีที่ไทยมีมาตรการอุดหนุนการส่งออกน้ำตาล และอุดหนุนราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศว่า ขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดและกรอบการดำเนินงานตามแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้ทางบราซิลไปแล้ว จากที่ได้มีการเจรจากันล่าสุดเมื่อวันที่ 3-4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยกรอบระยะเวลาในการดำเนินงานนั้น ทางคณะเจรจาฝ่ายไทย ได้ขอกับทางบราซิลไปว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 เนื่องจากการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่ต้องใช้ระยะเวลานานเกือบ 1 ปี ซึ่งขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขได้นำเสนอนาง อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไปแล้ว เพื่อส่งให้ครม.เห็นชอบ นำเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป
ขณะเดียวกันระหว่างนี้สอน.จะต้องมาจัดทำรายละเอียด ที่ทางบราซิลกล่าวหา โดยจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าจะมีแนวทางหรือทางออก ที่จะไม่ให้ทางบราซิล นำไปสู่การตั้งคณะผู้พิจารณา(Panel) ขึ้นมาเพื่อดำเนินการไต่สวนในการฟ้อง โดยจะต้องให้แล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และหลังจากนั้นจะนำรายละเอียดไปเจรจากับทางบราซิลอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนที่เป็นข้อกังวลที่อาจจะทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ คงจะเป็นเรื่องของ การแก้ไขพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่ขณะนี้ยังมีกลุ่มโรงงานน้ำตาลทราย ออกมาคัดค้านในการแก้ไขเกือบจะทุกประเด็น ซึ่งทางสอน.ยืนยันว่า หากจะให้แก้ไขใหม่คงจะไม่ทันตามกรอบเวลาที่ให้ไว้กับทางบราซิล
ดังนั้น จึงอยากจะขอความร่วมมือกับทางกลุ่มโรงงานน้ำตาลทรายคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการฟ้องของบราซิลในครั้งนี้ก่อน และมาช่วยกันดูว่า ประเด็นไหนที่กลุ่มโรงงานน้ำตาลทรายยังไม่เห็นด้วย แล้วค่อยมาไล่พิจารณากันอีกครั้ง
ด้านนายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายนั้น ทางกลุ่มโรงงานน้ำตาลทราย ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไปแล้วว่า ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดนิยามผลพลอยได้ ที่ให้รวม กากอ้อยและกากตะกรอนกรอง มาแบ่งเป็นรายได้ให้กับชาวไร่ นอกเหนือจากกากน้ำตาล รวมถึงไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกระบบโควตาน้ำตาลทราย และการยกเลิกการควบคุมราคาน้ำตาลทรายในประเทศ เนื่องจากยังไม่มีวิธีปฏิบัติและราคาอ้างอิงที่ชัดเจน เป็นต้นระหว่างนี้จะต้องมาหารือกันว่าจะได้ข้อยุติตรงไหน
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า การที่กลุ่มโรงงานน้ำตาลทรายไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโรงงานน้ำตาลขนาดเล็ก ที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีการยกเลิกระบบโควตา ก.ข.และค. และยกเลิกควบคุมราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศเนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีวิธีปฏิบัติว่า เมื่อยกเลิกแล้วจะควบคุมการส่งออกน้ำตาลทรายได้อย่างไร เพราะหากน้ำตาลทรายในตลาดโลกมีราคาดี ก็จะมีการหันไปส่งออกน้ำตาลทรายกันหมด จะส่งผลให้น้ำตาลทรายในประเทศเกิดการขาดแคลน และปัญหาที่ต่อเนื่องตามมา จะทำให้กลุ่มโรงงานขนาดเล็กที่ไม่มีการต่อยอดธุรกิจอย่างเอทานอล หรือมีสายป่านไม่ยาวพอ จะอยู่ยาก เนื่องจากบรรดาโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ จะกว้านซื้ออ้อยข้ามเขตในระยะทางที่ไกลขึ้น หรือเป็นการแย่งอ้อยเข้าโรงงาน โดยให้ราคาที่สูงกว่า เพื่อผลิตน้ำตาลทรายส่งออกให้มากที่สุดเพื่อทำกำไร ซึ่งจะส่งผลให้โรงานน้ำตาลที่มีเงินทุนไม่เพียงพอแย่งซื้ออ้อย ไม่มีอ้อยเข้าโรงงาน และอาจจะต้องปิดดำเนินการในที่สุด
source: thansettakij.com/2016/11/30/116885