ปีแป๋ ผลไม้ไทย

ปีแป๋ ผลไม้ไทย ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี ตามแผงผลไม้ต่าง ๆ ในไต้หวัน มีผลไม้หลายชนิดวางขาย เช่น แตงโมยักษ์ , ฝรั่ง , มะละกอ ฯลฯ แต่มีผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะติดผลเป็นพวง ผลมีสีเหลืองส้ม โดยคนไต้หวันเรียกผลไม้ว่า “ปีแป๋” (Pipa) จากการสอบถามพ่อค้าแผงผลไม้ทราบว่า ผลไม้ที่ชื่อ “ปีแป๋” (คนไทยบางคนเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า “ผีผา”) นั้น จะมีขายปีละครั้งจัดเป็นผลไม้ที่มีชื่อเรียกและเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวันก็ว่าได้ช่วงเดือนมกราคม- เมษายนของทุกปี เป็นผลไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูงคือ กิโลกรัมละ 100-300 บาทไทย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับการคัดเกรด ขนาดผล และกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงามมากน้อยเพียงใด นอกจากเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ

“ปีแป๋” เป็นผลไม้ที่มีทรงผลคล้ายๆ ลูกแพร์ แต่ขนาดของผลเล็กกว่า ขนาดผลมีความยาวประมาณ 1.5-2 นิ้ว ขนาดผลใหญ่ใกล้เคียงกับมะปรางยักษ์ ติดผลเป็นพวง พวงละ 5-10 ผล แต่ถ้าคัดบรรจุลงกล่องที่สวยงามก็จะตัดแยกออกเป็นผลเดี่ยวจัดเรียงกล่องละ 12-15 ผล ผิวผลและขั้วผลจะมีขนละเอียดนุ่มปกคลุมอยู่ วิธีรับประทานปีแป๋นั้น เพียงท่านลอกเปลือกที่ผลออก โดยจะมีลักษณะเป็นเปลือกบาง ๆก็สามารถทานปีแป๋ได้โดยง่าย รสชาติของปีแป๋ มีรสชาติหวานกำลังดี ไม่หวานจัด หรือ หวานแหลมจนแสบคอ เหมาะกับผู้สูงอายุทานได้เป็นจำนวนหลายผล ปีแป๋มีรสหวานเย็น มีความฉ่ำ หอม เนื้อละเอียด ภายในผลมีเมล็ด 3-4 เมล็ดเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ได้ชิมปีแป๋ต่างรู้สึกประทับใจในรสชาติของผลไม้ชนิดนี้เป็นอย่างมาก จึงได้ซื้อผลสดกลับมาเมืองไทยหลายกล่องแล้วเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ทานเนื้อไปแล้ว ซึ่งทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร ก็ได้นำเมล็ดปีแป๋มาเพาะเมล็ดได้นับร้อยต้น แล้วปลูกไว้ในแผนกฟาร์ม สวนของชมรมเผยแพร่ฯ ที่ จ.พิจิตร โดยปลูกแซมระหว่างต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ซึ่งพบว่าในเดือนกันยายน 2554 ที่ผ่านมา ต้นปีแป๋บางต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดซึ่งมีอายุเพียง 2 ปีเศษ ได้มีบางต้นเริ่มออกดอกให้เห็นบ้างแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าสามารถปลูกต้นปีแป๋ได้ในบ้านเรา และส่วนหนึ่งทางชมรมฯ พบว่าต้นปีแป๋ มีการตอบสนองต่อการใช้สาร“แพคโคล บิวทราโซล”

จากข้อมูลพบว่า “ปีแป๋” ซึ่งชื่อภาษาอังกฤษจะเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า “โลควอท” (Loquat) เป็นผลไม้ที่มีประวัติมานับ 1,000 ปี ซึ่งพบเอกสารการปลูกในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 1,100 ปีมาแล้ว ต่อมามีนักพฤกษศาสตร์บางท่าน ชี้ว่าแต่เดิมที่ผลไม้ชนิดนี้น่าจะปลูกที่ประเทศจีนมาก่อน ต่อมาได้ ถูกนำเข้าไปปลูกที่ญี่ปุ่นจะมีชื่อเสียง แล้วกระจายพันธุ์ออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งในแถบเกาหลี, ไต้หวัน, ฝั่งยุโรป และ อเมริกา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูก “ปีแป๋” ในเชิงการค้า จะมีมากในประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และ ไต้หวัน เป็นต้น.

อ้างอิง : http://thairecent.com

ส่งความคิดเห็น