data-ad-format="autorelaxed">
มัลเบอร์รี่ เป็นเบอร์รี่ไทย ผลไม้ชนิดผลรวมที่ปัจจุบันสามารถปลูกเป็นเชิงพาณิชย์ได้แล้ว แถมยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ซึ่งชอบกินผลไม้หรืออาหารเป็นยา หรือที่นักวิชาการเรียกเสียไพเราะเพราะพริ้งว่า “เภสัชโภชนาภัณฑ์”
พูดง่ายๆ คืออาหารที่เรากินเข้าไป ร่างกายจะย่อยเปลี่ยนเป็นสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ที่มีสรรพคุณเป็นยาป้องกันหรือรักษาโรคได้ โดยเฉพาะสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการเกิดโรคได้หลายชนิด รวมทั้งสร้างความสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ
ปัจจุบัน มัลเบอร์รี่มีบทบาทในกลุ่มผลไม้เพื่อสุขภาพ จึงทำให้ผลสดเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เช่นเดียวกับต้นพันธุ์และกิ่งพันธุ์ก็เป็นที่ต้องการของนักสะสมพันธุ์ไม้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะมัลเบอร์รี่ หรือหม่อนสายพันธุ์ใหม่จากต่างประเทศ ใบทำชา ผลสดใช้แปรรูปและกินสด รสชาติดี และสีสันชวนกิน นั่นคือ พันธุ์ยูนนาน สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมกันมากในกลุ่มคนรักหม่อนในปัจจุบัน
คุณนิรันดร์ชัย เกษบึงกาฬ หรือ อาจารย์น้อย แห่งฟาร์ม Evergreen Khaoyai ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกหม่อนกินผลสดสายพันธุ์ยูนนาน เล่าให้ฟังว่า มัลเบอร์รี่ หรือหม่อนผลสดสายพันธุ์ยูนนาน ที่ฟาร์ม Evergreen Khaoyai ได้ทดลองปลูกมาแล้ว 3 ปีกว่า เป็นพันธุ์ที่นำมาจากเมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานของประเทศจีน
“ตอนนั้นได้ไปเที่ยว ไปดูงาน ที่เมืองจีน ให้หม่อนผลดกมากเต็มต้น เลยนำกิ่งพันธุ์เข้ามาเพียง 2 กิ่งเท่านั้น และได้นำมาปักชำ ขยายไปเรื่อยจนได้จำนวนมากขึ้น”
อาจารย์น้อย บอกอีกว่า ลักษณะเด่นของหม่อนพันธุ์ยูนนาน คือใบใหญ่หนา ต้านทานต่อโรคและแมลง สังเกตว่าไม่มีแมลงรบกวน ไม่มีรอยกัดกิน เจริญเติบโตเร็ว ระบบรากแข็งแรงไปได้ไกลจากทรงพุ่ม ผลผลิตออกทั้งปี ผลดก ขนาดของผลใหญ่ ให้ผลผลิตสูง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นที่เป็นหม่อนลูกแดง รสชาติจะดีกว่า ผลสุกสีดำมีรสหวานมาก
เมื่อนำมาปลูกแล้วอัตราการรอดสูงกว่า 90% ปลูกง่าย เหมาะกับเกษตรกรที่มีพื้นที่น้อย หรือปลูกไว้กินเองหลังบ้าน แม้กระทั่งปลูกใส่กระถางยังให้ผลผลิตได้
การขยายพันธุ์ของสวน Evergreen Khaoyai จะใช้วิธีปักชำกิ่ง
โดยการเตรียมดินปักชำ มีส่วนผสมของขี้เถ้าแกลบ ดินปลูก ทราย อัตราส่วน 1:1:1 ใส่ถุงขนาด 4x6 นิ้ว จากนั้น จะเลือกกิ่งที่จะนำมาขยายพันธุ์ โดยเลือกกิ่งแก่ที่มีสีน้ำตาล จะมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า ตัดกิ่งขนาดความยาว 25-30 เซนติเมตร หรือให้มีตาอย่างน้อย 5-8 ตา กรีดรอบๆ โคนกิ่ง ให้เป็นแผลยาว 2-3 เซนติเมตร นำท่อนพันธุ์แช่ในฮอร์โมนหรือน้ำยาเร่งราก ประมาณ 30 นาที นำมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม
แล้วนำไปปักชำในถุงชำ ให้ปักลึกลงไปในดิน ประมาณ 2 นิ้ว นำไปวางไว้กลางแดดหรือร่มรำไร รดน้ำทุกวัน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ จะเริ่มแตกยอดอ่อนและราก เลี้ยงไว้ประมาณ 1 เดือน รากและใบจะแข็งแรงขึ้น สามารถนำลงไปปลูกในแปลงได้
“สำหรับวิธีการปลูก ในกรณีพื้นที่ปลูกมาก หรือเพื่อการค้า จะไถดินให้ลงลึกที่สุด ตากดินไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ กำหนดระยะปลูก ในแปลงปลูกของ Evergreen เราใช้ระยะแถว 2.50 เมตร ระยะต้น 2 เมตร ขุดหลุมปลูกขนาด 30x30
เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยอินทรียวัตถุและปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 โดยแบ่งหน้าดินกับดินชั้นล่างไว้คนละข้าง บนหลุมปลูก นำต้นพันธุ์ที่ได้จากการชำ หรือจากการตอนมาปลูก ให้นำหน้าดินผสมกับอินทรียวัตถุและปุ๋ยผสมกัน ใส่ลงไปก่อน นำต้นมาปลูกวางกลางหลุม แล้วนำดินชั้นล่างมากลบด้านบน รดน้ำ ปกติมัลเบอร์รี่เป็นพืชที่ทนแล้งอยู่แล้ว การให้น้ำว่าเหมาะสมหรือไม่ ให้ตรวจเช็กความชื้นของดิน ซึ่งในแปลงปลูก Evergreen จะให้น้ำระบบมินิสปริงเกลอร์”
“หลังจากปลูกแล้ว 3 เดือน จะกำหนดทิศทางของทรงพุ่ม เพื่อการตัดแต่ง ตัดหญ้ารอบๆ แปลงและโคนต้น ในระหว่างนี้เราได้ฉีดผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนหรืออาหารเสริมพืชทางใบ ทางสวนใช้ฮอร์โมนของ Evergreen เอง เพื่อการบำรุงรักษาต้น และใช้ Evergreen Soil ปล่อยไปทางระบบน้ำเพื่อทำให้ดินร่วนซุย และใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 ไปด้วย เมื่อลำต้นเริ่มแก่ อายุประมาณ 5 เดือน หรือเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล มากกว่าครึ่งต้น ทำการตัดแต่งแบบหนัก (Hard pruning) คือคงกิ่งหลักไว้เพื่อให้แตกกิ่ง เป็นทรงพุ่มตามต้องการ ส่วนการปลูกในกระถางนั้น ก็ทำวิธีเดียวกัน เพียงแต่ใช้กระถางให้มีขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 10 นิ้ว ซื้อดินผสมปลูกสำเร็จก็ใช้ได้เลย” อาจารย์น้อย กล่าวถึงวิธีการปลูกหม่อนแบบฉบับ Evergreen Khaoyai
อาจารย์น้อย ให้เทคนิคในการบังคับให้ออกดอกอีกว่า ปกติการออกดอกของหม่อนจะมีปัจจัยเรื่องการสะสมอาหารหรือการสมบูรณ์ของต้น การได้รับแสงแดดเต็มวันเป็นตัวกำหนด คือมีอัตราการเปลี่ยนแปลงระหว่างคาร์บอนกับไนโตรเจน (ค่า C/N Ratio) เมื่อต้นสมบูรณ์ การเจริญเติบโตทางยอด Vegetative จะสูง แต่ถ้าจะให้ออกดอกออกผลจะต้องมีอัตราคาร์บอนสูง เพื่อการสะสมอาหาร
“ในแปลงปลูกของ Evergreen Khaoyai เราใช้การตัดแต่งกิ่งเพื่อยับยั้งการเจริญทางยอด เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องใช้แรงงานมาก การโน้มกิ่งเป็นวิธีที่ดี แต่ใช้แรงงานและอุปกรณ์มาก การตัดแต่งจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้เมื่อแรงงานขาดแคลน ซึ่งผลผลิตออกมาก็ไม่แตกต่างกัน และยังเป็นการรักษาทรงพุ่ม ให้ได้ตามที่ต้องการ หลังจากการตัดแต่งเสร็จให้น้ำตามปกติ จะเห็นใบใหม่ออกมาพร้อมกับติดลูก และใช้ผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนพืชของ Evergreen ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน เพื่อการบำรุง หลังจากออกดอกติดผล ประมาณ 3 เดือน ถึงจะเก็บผลผลิตได้” อาจารย์น้อย กล่าว
หากมีข้อสงสัยต่างๆ สามารถติดต่ออาจารย์น้อยได้ ยินดีให้คำปรึกษา และที่ Evergreen Khaoyai ยังมีกิ่งพันธุ์มัลเบอร์รี่จำหน่าย ทั้งกิ่งพร้อมปักชำ และกิ่งล้างราก จัดส่งทางไปรษณีย์ หรือสนใจต้นพันธุ์พร้อมปลูก ติดต่อสอบถาม อาจารย์น้อย โทร. (081) 790-1924
source: prachachat.net/news_detail.php?newsid=1447067122