data-ad-format="autorelaxed">
เปิดมุมมอง สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)ผ่าน”ฐานเศรษฐกิจ”ถึงปฏิกิริยาและโอกาสทางการค้า การส่งออก รวมถึงธุรกิจของศรีไทยฯที่มีฐานการผลิตอยู่นอกประเทศ หลังจากที่นโยบายผู้นำอเมริกาหันมาให้น้ำหนักกับการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ
อเมริกาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
โดยซีอีโอ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ฯฉายภาพรวมว่าการได้ทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี น่าจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอเมริกาในฐานะที่เป็นประเทศมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพราะทรัมป์ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ แต่เติบโตจากภาคธุรกิจ ทำให้คิดนอกกรอบจารีตที่เคยยึดถือปฏิบัติมาในอดีต ซึ่งคงต้องจับตาดูต่อไป
โดยเฉพาะการที่ออกมาประกาศล้มกระดานความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพีแล้วใช้วิธีเจรจาทางการค้าใครพร้อมก็ไปด้วยกันนั้นน่าจะเป็นผลดีแก่หลายๆ ประเทศรวมทั้งไทย ที่ไม่ได้ลงนามใน ทีพีพี เนื่องจากการมีทีพีพี ก็เพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งนำโดยอเมริการวม 12 ประเทศ ขณะที่บทบาทของ ทีพีพี อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับ องค์การการค้าโลก หรือ WTO ได้ นอกจากนี้ ไทยก็ไม่ต้องเสียประโยชน์หรือเสียเปรียบโดยเฉพาะด้านเวชภัณฑ์และทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหลาย ดังนั้น ในด้านการค้าระหว่างประเทศควรให้เป็นความตกลงกันเองของกลุ่มประเทศที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันได้มากกว่าจะเป็นการกีดกัน
“ผลกระทบต่อไทยไม่น่าจะมีสาระสำคัญ เพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษีของอเมริกากับไทยที่เพิ่งต่ออายุก็เหลือน้อยแล้ว ส่วนทีพีพี ซึ่งทรัมป์มีนโยบาย จะยกเลิกนั้น ไทยก็ไม่ได้มีการลงนามทำให้ไม่ได้เสียประโยชน์อะไร”
ผู้ส่งออกต้องปรับตัวรับมือ
สำหรับการส่งออกของไทยควรจะรับมืออย่างไรนั้น มองว่าผู้ส่งออกต้องพยายามกระจายตลาดของตนไปสู่ประเทศอื่นๆเพื่อลดความเสี่ยง เพราะทรัมป์ต้องการลดการนำเข้าจากต่างประเทศและให้ผลิตในอเมริกาเพื่อเพิ่มการจ้างงาน และไทยอาจได้รับผลกระทบทางอ้อม เนื่องจากการกีดกันทางการค้ากับจีน ทำให้มีการซื้อสินค้าจีนน้อยลง การบริโภคหรือนำเข้าของจีนก็น่าจะลดลง ทำให้ประเทศคู่ค้ากับจีนมีการส่งออกลดลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม หากทรัมป์จะเน้นการผลิตในประเทศเองก็ต้องคิดความคุ้มค่าให้ดีเพราะการย้ายฐานผลิตต้องใช้เวลา ซึ่งระยะสั้นคงไม่กระทบรุนแรง นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตย่อมแพงขึ้น คนอเมริกาต้องใช้ของราคาสูงขึ้นด้วย
ศก.เอเซียยังขาขึ้นจะรวมตัวกันมากขึ้น
นายสนั่นยังมองถึง โอกาสของไทยที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปว่า ยังมีความได้เปรียบเพราะได้อานิสงค์ตรงที่ภาคพื้นเอเซียเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น มีการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจมากขึ้น แรงงานมีเพียงพอและไม่แพง เป็นแหล่งวัตถุดิบ ประชากรมีกำลังซื้อ จึงยังคงเป็นแหล่งผลิตและบริโภคที่สำคัญ
ขณะที่นโยบายทรัมป์ที่จะไม่แทรกแซงประเทศต่างๆทำให้เอเซียจะมีความสงบและมั่นคงทางการเมือง แม้ว่าจะมีปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศกันบ้าง แต่ก็สามารถหาข้อยุติได้โดยปราศจากการแทรกแซงของประเทศที่ 3 อีกทั้งภาพลักษณ์ของไทยในฐานะเป็นประเทศที่ปกครองโดยรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในเวทีระดับโลก เนื่องจากทรัมป์ต้องการแก้ไขปัญหาภายในของอเมริกา ไม่สนใจปัญหาของชาติอื่นๆ และลดการแทรกแซง ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจและการค้าจะเป็นตัวนำแทนการเมือง
นอกจากนี้ยังมองถึงวิกฤตที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปอาจมีผลกระทบเพียงแค่ระยะสั้น เพราะเป็นการปรับตัวของภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศ ความผันผวนของการไหลของเงินเข้าออก ตลาดหุ้น ราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนราคาน้ำมัน และพลังงาน น่าจะไม่สูงขึ้นอีก เนื่องจากผู้บริโภครายใหญ่ คือ อเมริกาซึ่งก็มีแหล่งพลังงานสำรองรูปแบบต่างๆมากอยู่แล้ว โดยนโยบายทรัมป์จะกลับไปใช้น้ำมันกับถ่านหินในการพัฒนาประเทศ เพราะถูกกว่าพลังงานทดแทน ทำให้การนำเข้าน้ำมันจะลดลง ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากน่าจะเป็นประเทศกลุ่ม OPECดังนั้น ต้นทุนการขนส่ง และการผลิตที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงก็รักษาระดับการแข่งขันได้
มองภาพรวมศรีไทยไม่กระทบ
นายสนั่น กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมของศรีไทยฯว่าคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการเปลี่ยนแปลงของอเมริกา แต่จะรับมือกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกโดยชะลอการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ยกเว้นการลงทุนในสินค้าใหม่ๆที่จำเป็นต้องมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีให้สูงขึ้น
ดังนั้นภาพรวมยุทธศาสตร์การลงทุนนอกบ้านของบริษัท ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโรงงานใหม่ของกลุ่มบริษัทในฮานอยและอินเดียก็มีการผลิตเต็มที่ โดยอินเดียซึ่งผลิตสินค้า เมลามีนได้รับการตอบสนองจากตลาดได้ดี จึงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เพื่อลดการนำสินค้าเข้าจากไทย เพราะอินเดียมีกำแพงภาษีนำเข้าสูง และมีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนเวียดนามซึ่งถือเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มศรีไทยในต่างประเทศขณะนี้ ก็มีการย้ายเครื่องจักรและแม่พิมพ์ใช้ผลิตสินค้าที่ตอบสนองตลาดในไทยน้อย แต่มีความต้องการสูงในเวียดนาม ไปยังโรงงานในเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ฐานผลิตทั้งไทยและเวียดนามได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้เต็มที่ และเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯที่จะมุ่งเน้นขยายฐานการผลิตไปต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง
ด้านการลงทุน ปี 2560 คงไม่มีการลงทุนใหม่เกิดขึ้นมากเพราะส่วนใหญ่ดำเนินการไปในช่วง 2 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเวียดนามและอินเดีย เงินลงทุนปี 2560 จะเป็นเพื่อการเปลี่ยนแทน หรือเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นหลัก
source: thansettakij.com/2016/11/27/115562