data-ad-format="autorelaxed">
ส่งออกกุ้ง ปลา ปลาหมึก
Tierดันส่งออกฟื้นไตรมาส4/59 ส่งออกกุ้ง ดี หวั่น"ปลา-ปลาหมึก"ขาดตลาด
สค.ชี้ส่งออกฟื้นชัดเจนไตรมาส 4/59 เตรียมเรียกเอกชนถกปรับแผนโปรโมชั่นหลัง Tier 2 Watch List เอกชนมั่นใจส่งออกกุ้ง ห่วงปลา-หมึกชอร์ตซัพพลาย
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแนวโน้มการส่งออกไทยช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มประมงและอาหารทะเลแปรรูปประมาณ 1.7-1.8% ของยอดการส่งออกรวม ก็น่าจะดีขึ้นในแง่จิตวิทยาเชื่อมโยงไปยังสินค้าที่ใช้แรงงานอื่น เช่น อ้อย สิ่งทอ มะพร้าว ซึ่งทำให้ผู้นำเข้ามีความมั่นใจกับสินค้าไทยมากขึ้น และอาจจะมีผลดีต่อการปรับสถานะ IUU
โดยในเดือนสิงหาคมนี้จะประชุมร่วมกับผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มประมงและอาหารทะเลแปรรูป เพื่อประเมินทิศทางการส่งออกหลังจากสหรัฐปรับลดสถานะการค้ามนุษย์ Tier 2 Watch List ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีด้านจิตวิทยา และจะเห็นคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือในอีก 3-5 เดือนข้างหน้า ซึ่งกรมและเอกชนประเมินสถานการณ์ซัพพลายการผลิตกุ้งในปีนี้ที่คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ จากที่ไทยสามารถแก้ไขปัญหาภาวะตายด่วนในกุ้ง (EMS) คลี่คลายไปแล้ว ส่วนเป้าหมายการส่งออกยังคงต้องรอการประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้งในเดือนกันยายน 2559 ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
"ขณะนี้ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ปรับแผนโปรโมชั่นการส่งออกหลังจากสหรัฐปรับลดสถานะเป็น Tier 2 Watch List ซึ่งเบื้องต้นทูตพาณิชย์ในกลุ่มประเทศสหรัฐและสหภาพยุโรป รายงานสถานการณ์เข้ามาว่า แนวโน้มน่าจะดีขึ้น แต่คำสั่งซื้อสินค้ารับไปล่วงหน้าหมดแล้ว จึงต้องรอดูในช่วงไตรมาสสุดท้าย หรืออีก 3-5 เดือน ก็ต้องคุยกับผู้ส่งออกว่า ถ้าเกิดมีคำสั่งซื้อทะลักเข้ามามาก ผลผลิตปีนี้น่าจะเพียงพอหรือไม่"
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยกล่าวว่า การส่งออกไทยช่วง 5 เดือนแรกปี 2559 ติดลบ 1% แต่เชื่อว่าการส่งออกทั้งครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เพราะจะมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้การส่งออกทั้งปี 2559 กลับมาเป็นบวกอยู่ในกรอบ 2-3% ส่วนการส่งออกสินค้าประมง กลุ่มกุ้งจะเป็นบวก ส่วนสินค้าปลา-หมึกคาดจะลดลง เนื่องจากปัญหาของปริมาณวัตถุดิบ ประกอบกับมูลค่าการค้าลดลง การแข่งขันมากขึ้น
"ปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ผลกระทบจาก Brexit อัตราแลกเปลี่ยนซึ่งขณะนี้เงินบาทแข็งค่าไปที่ 35.35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ สหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งให้ความสำคัญด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หวังว่ากรณีจากที่สหรัฐปรับไทยเป็น Tier 2 Watch List ส่งผลต่อภาพลักษณ์สินค้าไทย หวังว่าจากนี้อีก 2 ปีไทยจะขึ้นไปสู่ระดับ Tire 2 ได้ และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องให้กับการพิจารณาแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย (IUU) โดยสหภาพยุโรป"
ข้อมูลจาก prachachat.net