พืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง

พืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง ปีที่ผ่านมา ...กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับเกษตรกรชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูง เช่น โครงการศูนย์พัฒนาโครงการหลวง โครงการขยายผลโครงการหลวง โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน เป็นต้น โดยได้ดำเนินการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกรชาวไทยภูเขา จำนวน 7,935 ราย มีการส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง ได้แก่ ไม้ผลไม้ยืนต้นเมืองหนาว 507 ไร่ พืชผักเมืองหนาว 415 ไร่ ไม้ดอกเมืองหนาว 10 ไร่ ในปี 2555 นี้ ได้มีแผนฝึกอบรมและส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรชาวไทยภูเขา เป้าหมาย 7,495 ราย และเร่งส่งเสริมการปลูก พืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง แยกเป็น ไม้ผลไม้ยืนต้นเมือง 310 ไร่ ผักเมืองหนาว ไม่น้อยกว่า 36 ไร่ ไม้ดอกเมืองหนาว 10 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นปีละ 10%

นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า อนาคตกรมส่งเสริมการเกษตรมีแผนส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเมืองหนาว เพิ่มมากขึ้นทุกปี เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าสีเขียวที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อลดพื้นที่การปลูกพืชไร่โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ทำลายป่าต้นน้ำ และก่อปัญหาชะล้างพังทลายของหน้าดิน การปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเมืองหนาว เช่น อะโวคาโด พลับ มะคาเดเมีย ชา กาแฟ จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ ทั้งยังให้ผลตอบแทนสูงและมีอายุการให้ผลผลิตยาวนานถึง 20 ปี ซึ่งตลาดมีความต้องการสูง

“นอกจากจะช่วยให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงมีอาหารบริโภคภายในครัวเรือนเพียงพอแล้ว การส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูงยังสามารถช่วยลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร พอมี พอกิน ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้ครอบครัวอบอุ่น บุตรหลานเกษตรกรได้รับการศึกษาสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยลดปัญหาการบุกรุกทำลายป่า ลดพื้นที่ปลูกฝิ่น ช่วยลดปัญหายาเสพติด ตลอดจนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตัดปัญหาด้านความมั่นคงด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าว

ปีนี้กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุทกภัยปลายปี พ.ศ. 2554 ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่ป่าต้นน้ำหรือที่สูงถูกทำลาย นอกจากนั้นยังต้องสอดรับสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี (AEC) ในปี พ.ศ. 2558 สำหรับพืชเศรษฐกิจที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต้องสามารถแข่งขันได้กับสินค้าพืชที่นำเข้า ได้แก่ อะโวคาโด พลับ มะคาเดเมีย และองุ่นไร้เมล็ด ซึ่งเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่มีศักยภาพและให้ผลตอบแทนสูง

นอกจากนั้นยังมีพืชผักเมืองหนาว อาทิ กะหล่ำปลีม่วง พริกหวาน ปวยเล้ง ผักกาดขาวปลี เซเลอรี่ หอมญี่ปุ่น บรอกโคลีและถั่วอะซูกิ รวมทั้งไม้ดอกเมืองหนาว เช่น เบญจมาศ ลิลลี่ปากแตร กุหลาบ และส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น เช่น ชา กาแฟ สำหรับพืชเศรษฐกิจบางชนิดที่อาจมีผลกระทบจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่น แครอท ถั่วลันเตาหวาน สาลี่ ทับทิม พลับสด เป็นต้น.

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น