พลังงานทดแทนจากพืช แทนน้ำมันเชื้อเพลิง

ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประเทศไทย มักจะได้ยินคำพูดจากประชาชนที่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อขับขี่รถยนต์ว่า “น้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้นทุกวัน” , “เมื่อไรน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดราคา” หรือ “ทำไมน้ำมันจึงแพงขึ้นมากอย่างนี้” ดังนั้น บทความนี้จึงขอกล่าวถึงแนวโน้มของประเทศไทย ที่ดำเนินการนำพลังงานจากแอลกอออล์ มาดัดแปลงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับขับขี่รถยนต์ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง และแก้ปัญหาราคาแพงของน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกทางหนึ่ง และอีกประการหนึ่ง สมบัติที่เหมาะสมของแอลกอฮอล์ เพื่อนำพลังงานมาใช้แทนน้ำมัน ก็จะถูกกล่าวด้วย.

มนุษย์มีการใช้พลังงานต่าง ๆ เพื่อการดำรงชีวิตมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่นมีการใช้ไฟที่เกิดจากการเสียดสีของไม้หรือหิน เป็นพลังงานให้ความอบอุ่น แสงสว่าง และหุงต้มอาหาร แต่พลังงานเหล่านี้เป็นพลังงานที่หาได้ง่ายตามธรรมชาติ ไม่มีวันหมดสิ้นไปจากโลก คือได้จากแสงแดด ลม น้ำ และได้จากการออกแรงของสัตว์และมนุษย์.

เมื่อโลกเรามีความเจริญมากขึ้น มนุษย์สามารถนำเชื้อเพลิงต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน และน้ำ มาเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ แต่พลังงานเหล่านี้เป็นพลังงานที่มีวันหมดสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมัน.

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ปลายปี พศ. 2516 จนถึงปัจจุบัน ประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาและไม่มีทรัพยากรน้ำมันของตนเอง เกิดวิกฤตการณ์พลังงาน ทำให้เกิดปัญหาและความเดือดร้อนแก่ประเทศดังกล่าว ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ดังนั้น ประเทศไทย? จึงได้มีการค้นคว้าและวิจัยเพื่อนำพลังงานจากแหล่งภายในประเทศมาใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิง เรียกพลังงานที่ใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า “พลังงานทดแทน” พลังงานทดแทนมีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ พลังงานที่ได้จากแก๊สธรรมชาติ แก๊สปิโตรเลียมเหลว ถ่านหิน แอลกอฮอล์ หินน้ำมัน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งบทความนี้จะกล่าวรายละเอียดเฉพาะพลังงานที่ได้จากแอลกอฮอล์ เพราะกำลังเป็นเรื่องที่สนใจของประชาชนทั่วไป.

เอทานอล (Ethanol) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) หรือเรียกสั้นๆ ว่า แอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นส่วนผสมในสุราที่มนุษย์ใช้ดื่มได้ แต่ต้องผสมในปริมาณที่ไม่มากนัก มิฉะนั้นจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายได้ จากการศึกษาสมบัติของเอทานอล พบว่ามีเลขออกเทน? (octane number) สูง ไม่ทำให้เครื่องยนต์โขก ให้กำลังเครื่องยนต์พอๆ กับน้ำมันเบนซิน ไม่ต้องเติมสารประกอบของตะกั่ว ทำให้เกิดมลภาวะน้อยกว่า ไม่มีคาร์บอนมอนนอกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์ออกมา เพราะการเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อนำแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำมันเบนซิน โดยมีแอลกอฮอล์ประมาณ 15 % จะทำให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น และทำให้เครื่องยนต์สะอาดกว่าการใช้น้ำมันเบนซินเพียงอย่างเดียว.

ถ้าแอลกอฮอล์เข้มข้นมาก ๆ ถึง 95-99.6 % กล่าวได้ว่าเป็นแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า แอลกอฮอล์เกือบจะไร้น้ำ สามารถนำแอลกอฮอล์นี้ไปใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงได้โดยตรง แต่ต้องมี การแก้ไขเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้เอทานอล มิฉะนั้นเครื่องยนต์จะมีปัญหา แต่ถ้านำเอทานอลผสมกับน้ำมันเบนซินใน อัตราส่วนพอเหมาะ จะไม่ต้องมีการแก้ไขดัดแปลงเครื่องยนต์ ประเทศในกลุ่มยุโรปพบว่าอัตราส่วนที่พอเหมาะ คือใช้เอทานอลผสมอยู่ในช่วง 20-35 % ที่สำคัญคือแอลกอฮอล์นี้มาจากไหน ? จะใช้วัตถุดิบอะไรมาผลิตเป็นแอลกอฮอล์ เพื่อให้ได้ราคาต้นทุนการผลิตต่ำ ?

ต่างประเทศ เช่น ประเทศบราซิลได้ทำแอลกอฮอล์จากอ้อยตั้งแต่ปี พศ. 2463 และมีการจำหน่ายน้ำมันที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ 8 % แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีสถาบันวิจัย เพื่อศึกษาประโยชน์ที่ได้จากอ้อย.

ที่ประเทศไทยมีโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ชนิดไร้น้ำ โรงงานแรกของประเทศไทย มีกำลังการผลิตวันละ 1,500 ลิตร โดยใช้วัตถุดิบแป้งและน้ำตาลเป็นตัวผลิต โรงงานนี้ตั้งในบริเวณสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย บางเขน กรุงเทพ ฯ เอทานอลที่ผลิตได้มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.5 % เมื่อนำแอลกอฮอล์นี้ผสมกับน้ำมันเบนซินธรรมดา เรียกส่วนผสมนี้ว่า “เบนโซฮอล์ (Benzohol)” ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ เบนโซฮอล์เคยมีจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันสวัสดิการกรมศุลกากร สถานีบริการน้ำมันสวัสดิการ ปตท. และสถานีบริการน้ำมันสวัสดิการ กรมวิชาการเกษตร.

ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีวัตถุดิบประเภทที่จะใช้ผลิตแอลกอฮอล์อยู่จำนวนมาก และราคาก็ถูก เช่น อ้อย มันสำปะหลัง รวมทั้งมันประเภทต่าง ๆ วัตถุดิบนี้มีน้ำตาลหรือแป้งเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรจะทำเรื่องนี้ให้จริงจังเสียที เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันขาดแคลนและราคาแพง ซึ่งถ้าทำเป็นผลสำเร็จ จะทำให้ลดปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินลงได้ถึง 15 % หรือ 1,054 ล้านลิตร แต่รัฐบาลก็ควรตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมา เช่นต้นทุนการผลิต กฏระเบียบ ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน และความนิยมของผู้ใช้ จึงจะทำให้เศรษฐกิจ

ของไทยมีความมั่นคง ซึ่งพวกเราก็ควรจะช่วยกันประหยัดเชื้อเพลิงด้วย เช่น ควรเดินในบริเวณที่ใกล้ ๆ แทนที่จะขับขี่รถยนต์ นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังประหยัดเงินด้วย เป็นการช่วยชาติไปด้วยค่ะ.

หนังสืออ้างอิง จรรยา เงินมูล. “วิกฤตราคาน้ำมันแพง และ มาตรการแก้ไขปัญหา”. วารสารโลกพลังงาน. 9 (ตุลาคม-ธันวาคม, 2543) : 73-76. ______. “แอลกอฮอล์จากพืชเกษตร พลังงานทดแทนในยุคน้ำมันแพง” วารสารโลกพลังงาน. 9(ตุลาคม-ธันวาคม, 2543) : 80-72. วารสารโลกพลังงาน. 9(ตุลาคม-ธันวาคม, 2543) : 73-76. พูนสุข อัตถะสัมปุณณะ และคณะ. “การผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังในโรงงานต้นแบบเป็น พลังงานทดแทน”. โครงการวิจัยที่ ภ. 25-02. โครงการย่อยที่ 1. (2528) : 49-61.

อ้างอิง: http://www.nsru.ac.th/oldnsru/knowwhy/sunan2.html

ส่งความคิดเห็น