data-ad-format="autorelaxed">
จากทำนาอย่างเดียวมีรายได้พอถูไถ แต่วันนี้ชีวิต คำเส็ง องอาจ เกษตรกรวัย 53 ปี แห่งบ้านคำน้ำเกี้ยง ต.ทุ่งแต้ อ.เมือง จ.ยโสธร ได้เปลี่ยนไปเพราะไข่น้ำ หรือคนอีสานเรียกว่าผำ
“คนอีสานรู้จักผำมาแต่โบราณ เอาทำกับข้าว ผัดใส่ไข่เจียว แต่รู้จักเอามาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในหน้าฝนเกิดขึ้นมาก แต่ไม่เคยรู้ก่อนว่า สามารถเพาะเลี้ยงได้ เพิ่งมารู้เอาตอนที่ประมงจังหวัดยโสธร มีโครงการส่งเสริมชาวบ้านเลี้ยงสัตว์น้ำอินทรีย์ ให้เลี้ยงปลากินพืช 3 ชนิด ปลาตะเพียน ปลานิล ปลาไน และแนะนำให้เลี้ยงผำไว้เป็นอาหารปลา เมื่อปีที่แล้วนั่นแหละถึงได้รู้ว่า ผำมีให้เก็บกิน มีให้เลี้ยงปลาได้ทั้งปีไม่ต้องหน้าฝน”
คำเส็ง บอกว่า แรกๆที่ได้ปลามา 1,000 ตัว ขนาด 4.5-5.0 ซม. เป็นปลาตะเพียน 750 ตัว ปลานิล 200 ตัว และปลาไน 50 ตัว ขนาด 4.5-5.0 ซม. ขุดบ่อขนาด 600 ตร.ม. ลึก 1 ม. ไว้เป็นบ่อทดลองเลี้ยงปลา และขุดอีกบ่อ กว้าง 200 ม. ยาว 200 ม. ลึก 1 ม. ไว้เพาะเลี้ยงไข่น้ำตามคำแนะนำของประมงจังหวัด
เริ่มจากเอาปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยคอก 100 กก. ใส่ลงไปกลางบ่อ เติมจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียอีก 5 ลิตร...จากนั้นปล่อยน้ำเข้าบ่อให้เต็ม แล้วนำต้นพันธุ์ไข่น้ำเท่าที่หาได้ 1 ตะกร้า ประมาณ 10 กก. ใส่ลงไปในบ่อ
“ทิ้งไว้ 7 วัน ไข่น้ำขยายพันธุ์ได้เร็วมากจนเต็มบ่อ เราแค่ตักขึ้นมาไปเลี้ยงปลาได้แล้ว ให้วันละ 2 เวลาเช้ากับเย็น หรือจะเอาผำไปบดผสมกับหญ้าเนเปียร์ก็ได้เพื่อจะได้อาหารเลี้ยงปลามากหน่อย แต่สำหรับบ่อเลี้ยงปลาของผม ปล่อยปลา 1,000 ตัว ให้อาหารมื้อละ 20 กก.”
หลังจากเลี้ยงไป 6 เดือน ปรากฏผลปลาเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ได้ขนาดตัวเท่าๆกัน ไม่แตกไซส์ขายได้ราคาดี...หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไร 30,000 บาท
ทดลองเลี้ยงครั้งแรกเห็นผล มีรายได้ดีกว่าทำนาปลูกข้าว... กรกฎาคมที่ผ่านมา การเลี้ยงจริงในรอบที่ 2 คราวนี้ นอกจาก คำเส็ง จะปล่อยลงเลี้ยงในบ่อจำนวน 1,000 ตัวเหมือนเดิมแถมยังเอาปลาตะเพียน 30,000 ตัว ปลานิล 7,500 ตัว ไปปล่อยลงนา 15 ไร่
เลี้ยงปลาควบคู่กับทำนา พร้อมกับเพาะเลี้ยงไข่น้ำไว้เป็นอาหารปลาในนาไปพร้อมๆกัน แบบ 3 อิน 1...ปลูกข้าว+เลี้ยงปลา+เพาะผำ
แต่จะทำอย่างนี้ได้ การทำนาแบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าวจะไม่สามารถทำได้ เพราะต้องปล่อยให้มีน้ำเต็มนาตลอดเวลา เนื่องจากปลากับผำขาดน้ำไม่ได้ และเพื่อให้มีผำในนาข้าวเพียงพอต่อการเลี้ยงปลา จะต้องเติมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และจุลินทรีย์เดือนละครั้งให้กระจายไปทั่วนา เพื่ออาหารเพาะเลี้ยงผำ
source: thairath.co.th/content/1117510