มันสำปะหลัง พยากรณ์ผลผลิต ปี 2553

เนื้อที่เก็บเกี่ยว รวมทั้งประเทศ 7.662 ล้านไร่ ลดลง จากปีที่แล้ว 0.630 ล้านไร่ หรือร้อยละ 7.59
ผลผลิต รวมทั้งประเทศ 25.033 ล้านตัน ลดลง จากปีที่แล้ว 5.055 ล้านตัน หรือร้อยละ 16.80
ผลผลิตต่อไร่ ทั้งประเทศ 3,267 กิโลกรัม ลดลง จากปีที่แล้ว 361 กิโลกรัม หรือ ร้อยละ 9.95
สถานการณ์การผลิต ปี 2553 เนื้อที่เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังลดลง เนื่องจากประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาด เกษตรกรบางรายจึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกอ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อตัดวงจรการระบาดของเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง ประกอบกับยางพาราที่ปลูกแซมในไร่มันสำปะหลังช่วงอายุ 4 – 5 ปี เจริญเติบโต จึงไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังได้
ผลผลิตรวมทั้งประเทศของมันสำปะหลังปี 2553 คาดว่าลดลงมากเหลือเพียง  25  ล้านตัน  จาก 30 ล้านตัน

ในปีที่แล้ว จากภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายน ทำให้เพลี้ยแป้งกลับมาระบาดอีกครั้งในหลายจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิต   ที่ สำคัญ เช่น นครราชสีมา กาญจนบุรี สระแก้ว ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี และกำแพงเพชร เป็นต้น แม้ว่าจะมีฝนตกในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคม ซึ่งทำให้การระบาดของเพลี้ยแป้งเบาบางลง แต่ก็อาจจะกลับมาระบาดได้อีกในช่วงที่มีสภาพภูมิอากาศแห้งแล้งในเดือน ธันวาคม 2552 ถึง กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมาก ประมาณ 13 ล้านตันหรือร้อยละ 51 ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตในภาพรวมลดลงอีก
 

สถานการณ์ตลาดและราคา ปริมาณ ผลผลิตหัวมันสดของปี 2553 ลดลงจากที่ประมาณการเดิมมาก ประกอบกับจีนที่เป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ได้กลับมาซื้อมันเส้นและแป้งมัน สำปะหลัง ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังส่งออกทั้งมันเส้นและแป้งมัน ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2552 โดยราคามันเส้นสูงขึ้นจาก 147 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 168 ดอลลาร์สหรัฐ ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 และในช่วงเดียวกันราคาแป้งมัน สูงขึ้นจาก 280 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 338 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาหัวมันสดที่เกษตรกรขายปรับตัวสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.21 บาท เป็น 1.54 บาท ทั้งนี้คาดว่าหากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง จะทำให้ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยปี 2553 พุ่งสูงขึ้นจนมีราคาสูงเท่ากับปี 2551 ได้

อ้างอิง : oae.go.th/mis/Forecast/04_DEC2552/Thai/situation/sit_t_08.htm

ส่งความคิดเห็น