Low of the Minimum (กฎต่ำสุด)
พืชจะโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด
Low of the Minimum (กฎต่ำสุด)
ไม่ว่าคุณจะให้ปุ๋ยมากแค่ไหน พืชก็โตได้เท่ากับ ธาตุหลัก ธาตุรอง ที่คุณไม่เคยให้กับพืชและดินเลย ธาตุอาหารที่มีอยู่น้อยที่สุด จะจำกัดการโตของพืชคุณ เป็นข้อบกพร่องเล็กๆ ที่ทำให้ดูเหมือนว่า ใส่ปุ๋ยไปมากเท่าไร ก็ยังไม่ได้ผล
ปุ๋ยตรา FK จากฟาร์มเกษตร เราตระหนักถึงเรื่อง Low of the Minimum หรือ กฎต่ำสุด จึงออกแบบปุ๋ยตรา FK ใน 1 กล่อง ให้ประกอบด้วย สองถุง ด้านใน คือ ปุ๋ยธาตุหลักหนึ่งถุง และ K1 ธาตุรอง ธาตุเสริม อีกหนึ่งถุง ที่ผ่านการคำนวณสัดส่วนเพื่อผสมใช้ไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว เพื่อนำพาพืชของท่าน ให้เจริญเติบโต ด้วยธาตุหลัก ธาตุรองที่ครบถ้วน และไม่เคยได้ถูกเติมเต็ม จากการใช้ปุ๋ยทั่วๆไปตามท้องตลาด ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารต่างๆมากมาย และเติมเต็มส่วนที่ขาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดังรูปด่านบน เช่น คุณให้ปุ๋ยทั่วๆไป ที่มีธาตุหลักเพียง 3 ตัว คือ N P K และธาตุรอง ธาตุเสริมอื่นๆ มีอยู่แล้วในดินของคุณ แล้วแต่สภาพดินบริเวณนั้น ว่าโชคดี มีธาตุรอง ธาตุเสริม และ OM อยู่มากแค่ไหน ในทุกๆปี ธาตุรองธาตุเสริมเหล่านี้ โดนลดลงไปทุกรอบของการเพาะปลูก เพราะคุณเติมเฉพาะ N P K ให้กับดิน อย่างมากก็เพิ่ม แคลเซียม และ ซิลิกอน อีกสองตัว จากสารปรับสภาพดินต่างๆ ที่มีขาย แต่ธาตุรองธาตุเสริมมีมากมาย จนแทบจะจำชื่อได้ไม่หมด พืชคุณจะถูกจำกัดคุณภาพ และการเจริญเติบโต ด้วยธาตุรอง ธาตุเสริม ที่มีอยู่น้อยที่สุด เสมือนถังน้ำที่มีความสูงของไม้ประกบ ที่มีความสูงไม่เท่าแผ่นอื่นๆ อยู่เพียงแผ่นเดียว พืชคุณเสมือนน้ำในถัง จะสามารถโตอยู่ในถังน้ำ (เปรียบถังน้ำว่าเป็นดิน) ได้มากที่สุดเท่ากับไม้ประกบแผ่นที่มีความสูงน้อยที่สุด เพียงเท่านั้น
นัก วิทยาศาสตร์ที่สามารถลบล้างทฤษฎีฮิวมัสได้สำเร็จคือ จุสตุส ฟอน ลีบิก (Justus von Liebig, ค.ศ. 1803-1873) ชาวเยอรมัน ลีบิกมีความคิดว่า ปัจจัยที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืชคืออาหารแร่ธาตุต่าง ๆ จึงได้ตั้งทฤษฎีขึ้นมาใหม่แทนทฤษฎีฮิวมัส คือ “ Law of the minimum” ซึ่งมีใจความว่า เมื่อพืชได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นเพียงพอแล้วทุกธาตุยกเว้นธาตุหนึ่งซึ่งยัง ขาดอยู่หรือยังมีไม่เพียงพอ ธาตุนั้นจะเป็นตัวจำกัดการเจริญเติบโตของพืช ทฤษฎีของลีบิกนี้ยังได้รับความเชื่อถือมาตราบจนทุกวันนี้และเป็นที่ยอมรับ กันทั่วโลก มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้นลีบิก มีแนวคิดว่า การแนะนำการใส่ปุ๋ยให้กับพืช (Fertilizer recommendation) สามารถทำได้โดยการวิเคราะห์หาธาตุที่เป็นส่วนประกอบของพืช แล้วใส่ธาตุเหล่านั้นลงไปในดิน เขาเป็นบุคคลแรกที่คิดทำปุ๋ยเคมีขึ้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากปุ๋ยที่เขาผสมขึ้นในครั้งนั้นเป็นสารประกอบ ที่ไม่ละลายน้ำ ผลการทดลองที่สำคัญของ ลีบิกสามารถสรุปได้ดังนี้ 1) ยืนยันว่าคาร์บอนในพืชมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ 2) ไฮโดรเจนและออกซิเจนในพืชมาจากน้ำ 3) พืชต้องการโลหะที่เป็นด่าง (alkaline metals) เพื่อสะเทิน (nutralize) กรดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเมตาโบลิซึมในพืช (metabolic activities) 4) ฟอสเฟตจำเป็นสำหรับการสร้างเมล็ดของพืช 5) พืชดูดแร่ธาตุต่าง ๆ ในดินโดยไม่เลือกชนิด แล้วเลือกใช้เฉพาะธาตุที่จำเป็นเท่านั้นส่วนที่ไม่จำเป็นจะถูกขับ (excretes) ออกมาทางราก 6) พืชได้รับไนโตรเจนในรูปของแอมโมเนียมไอออน (NH4+) ทั้งจากดิน ปุ๋ยอินทรีย์ และอากาศ 7) พืชจะปลดปล่อยกรดแอซีติก (acetic acid) ออกมาทางราก จะเห็นได้ว่าข้อสรุปของลีบิกนั้นไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด เช่น ข้อสรุปที่ว่ารากพืชจะปลดปล่อยกรดแอซีติกออกมาและพืชได้รับไนโตรเจนในรูปของ แอมโมเนียมไอออนทั้งจากดิน ปุ๋ยอินทรีย์และอากาศ เป็นต้น
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก cw.rmuti.ac.th