3 หน่วยงานหนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ ผลิตปุ๋ยหมักจากมูลโคปรับปรุงดิน...
กระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดรวม 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมป
data-ad-format="autorelaxed">
3 หน่วยงานหนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ ผลิตปุ๋ยหมักจากมูลโคปรับปรุงดิน...
|
กระ ทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดรวม 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมปศุสัตว์และกรมพัฒนาที่ดิน บูรณาการร่วมกันในการพัฒนาพื้นที่และพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ โคเนื้อในเขตปฏิรูปที่ดิน ภายใต้ระบบการสร้าง ธนาคารปุ๋ยคอกเคลื่อนที่ ประจำปี 2551 ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ จัดการระบบโลจิสติกส์และการตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตามนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตรของรัฐบาล เบื้องต้นได้สนับสนุนให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ รวมกลุ่มจัดตั้งและจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้เลี้ยงโคเนื้อแล้วทั้งสิ้น 1,498 กลุ่ม สมาชิก 19,227 ราย
ในด้านของ ส.ป.ก.นั้นได้ปล่อย สินเชื่อกองทุนปฏิรูปที่ดิน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ให้สมาชิกกู้ยืมไปลงทุนแล้ว วงเงินรวมกว่า 643.13 ล้านบาท โคเนื้อ 58,946 ตัว อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการจัดที่ดิน 379,829 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 834 กลุ่ม สมาชิก 11,542 ราย สินเชื่อกองทุนฯ จำนวน 373.09 ล้านบาท โคเนื้อ 27,102 ตัว กระจายอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน 212,410 ไร่ และปัจจุบันได้นำวิสาหกิจชุมชนภาคใต้มาพบปะกับเครือข่ายธุรกิจโคเนื้อภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อให้เกิดการเจรจาซื้อขายโคเพื่อนำไปเลี้ยงในสวนปาล์มน้ำมัน ล่าสุดได้มีการนัดหมาย ส่งมอบและเคลื่อนย้ายโคเนื้อ เข้าสู่สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ เป้าหมายไม่น้อยกว่า 1,000 ตัว คิดเป็นมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท
ขณะที่กรมปศุสัตว์ มีแผนสนับสนุนเกษตรกร ให้เข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการผลิต การสุขาภิบาลสัตว์ รวมทั้งการจัดการฟาร์ม ตลอดจนให้บริการด้านพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ การควบคุมป้องกันโรคสัตว์ กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับระบบการตลาด การควบคุมโรค และการเคลื่อนย้ายสัตว์
ส่วนกรมพัฒนาที่ดินมีหน้าที่ ส่งเสริมให้ความรู้เกษตรกรในเรื่องการนำมูลโคมาผลิตเป็นปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินเท่านั้น ยังเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตให้กับพืชที่เกษตรกรปลูกด้วย โดยโคเนื้อ 1 ตัว จะให้มูลที่นำมาทำปุ๋ยหมักได้อย่างน้อย 4-5 ตันต่อปี สามารถใช้ในไร่นาเฉลี่ย 4-5 ไร่ ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงนี้ปุ๋ยราคาแพง
อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักนอกจากจะเป็นการเติมอินทรียวัตถุให้กับ ดิน ช่วยฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรดินแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพการอุ้มน้ำให้กับดินอีกด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้งถ้าดินสามารถเก็บอุ้มน้ำไว้ได้นานขึ้น ก็จะช่วยให้พืชมีน้ำหล่อเลี้ยง ผลผลิตจะได้ไม่เสียหาย เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยเกษตรกรลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
สำหรับวิธีการทำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก นายบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน แนะนำมาว่า เกษตรกรที่เลี้ยงโคเนื้อก็นำมูลโคที่ได้มาใช้ ให้เกิดประโยชน์ โดยการนำมาผสมกับเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีในท้องถิ่น เช่น ใบอ้อย เศษมันสำปะหลัง มาหมักให้ได้ที่ สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ที่ถูกต้องได้จาก เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดินที่อยู่ประจำสถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัดและหมอ ดินอาสาใกล้บ้าน
ความร่วมมือกันในครั้งนี้ของ 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น ด้วยการใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่าย ยังก่อให้เกิดรายได้เพิ่มอีกด้วย.
|
อ่านเรื่องนี้แล้ว : 26237 คน
£
ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:
กุ๊งกิ๊ง[email protected]ไม่มาทำแถวอิสานบ้างเหรอคะคุณวิน
23 ก.ย. 2552 , 12:25 AM e0 ชอบ | | | 0 ไม่ชอบ |
วิน[email protected]โครงการเศรษฐกิจพอเพียง
“วินปลาดุก” สนองต่อนโยบายรัฐบาลในโครงการ “เศรษฐกิจพอเพียง”
และต้องการผู้ร่วมธุรกิจที่
1. ต้องการและสนใจเลี้ยงปลาดุก รายบุคคล กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน
โครงการฯ ที่มีภูมิลำเนาในเขตจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่
2. สามารถเลี้ยงปลาดุกได้ตั้งแต่ 10,000 ตัวขึ้นไป
3. ต้องการหารายได้เพิ่มให้กับครอบครัว
สิ่งที่ท่านจะได้รับ
1. มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำการเลี้ยงตั้งแต่เริ่มต้นจนจับปลาขายได้ ซึ่งใช้ประสบการณ์และวิชาการผสมผสานกัน พร้อมเทคนิคการลดต้นทุนการผลิต เพื่อสร้างกำไรแต่ละรอบการเลี้ยงได้เป็นอย่างดี
2. มีการทำสัญญารับซื้อคืนเมื่อปลาโต โดยท่านไม่ต้องกังวลเรื่องตลาด
3. มีการประกันราคาในการซื้อคืนล่วงหน้า ลดความกังวลและความเสี่ยงในการลงทุน
4. มีบริการให้คำปรึกษาและดูแลตลอดระยะเวลาโครงการ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องการเลี้ยงดู การจัดการบ่อ การตลาด ฯลฯ
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณพรสรร (วิน)
วินฟาร์มปลา ลำพูน
สายด่วน Hotline 086-9112450
E-mail :
23 ก.ย. 2552 , 12:20 AM e0 ชอบ | | | 0 ไม่ชอบ |
วิรัตน์[email protected]หจก. พรจันทร์มาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป
จำหน่ายปุ๋ยปลาปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ตราชาวประมง
ปุ๋ยปลา คือ ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็น สารละลายเข้มข้น ที่ได้จากปลาสดโดยกระบวนการหมักซึ่งมีกลุ่มจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลาย มีธาตุอาหารหลักและรองครบตามที่พืชต้องการ
วัตถุดิบ
ปลาสดจากทะเล : ให้ ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก แก่ต้นพืช
ส่าเหล้า : สารอินทรีย์ และ อนินทรีย์ มีสีน้ำตาลเข้ม และมีธาตุอาหาร N: P: K ซึ่งเป็นสารอาหารที่พืชต้องการ
จุลลินทรีย์ : สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เป็นตัวกลางช่วยเร่งปฏิกิริยาการดูดซึมธาตุอาหารของพืชได้เร็วขึ้น
ใช้ได้กับทุกชนิดพืช ไม้ผล,ไม้ดอก-ไม้ประดับ,พืชสวน,พืชไร่,พืชผัก,นาข้าว,โรงเพาะเห็ด,หัวเชื้อในการทำปุ๋ยหมักแห้ง, ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา
ประโยชน์ของปุ๋ยปลาตราชาวประมง
- ปรับสภาพดินและฟื้นฟูสภาพดินที่เสื่อมโทรมจากการทำเกษตกรรมมายาวนาน และจากการใช้ปุ๋ยเคมีที่เกินขนาด ช่วยให้ดินโปรง ร่วนซุย
- ปรับความเป็นกรด-ด่างในดิน สร้างความต้านทานโรครากเน่าโคนเน่า
- ช่วยเปิดรากพืชเสริมการดูดซึมธาตุอาหารแก่พืช
- เพิ่มความเขียวสดเป็นมันวาวให้ไม้ใบ ยืดอายุการบานของไม้ดอก
- มีกลิ่นและสารช่วยไล่แมลง พวกแทนนิน ลิกนิน
มีจำหน่ายขนาด 1 ลิตร 20 ลิตร มีทั้งราคาส่งและปลีก
อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อมานะครับ ขอบคุณครับ
ภาคใต้ ติดต่อ คุณกัญญา สารแก้ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร โทร 077-541347’544473
หรือ คุณสามารถ แสงจันทร์ โทร 0831062524
ภาคอิสาน กรุงเทพฯและปริมณฑล ติดต่อ คุณโกรัน คำโสภา 0819794783
http://www.paknamlangsuan.com/forum/index.php?board=25.0
พร้อมจัดส่ง
เราขอเสนอขายปุ๋ยปลาเพื่อเป็นหัวเชื้อในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์แห้ง และรับผลิตปุ๋ยปลาตามสูตรของท่าน ในราคาต่ำ สนใจติดต่อฝ่ายขาย คุณ สามารถ แสงจันทร์ 0831062524
ขอความกรุณาช่วยส่งต่อด้วยนะครับ
ขออภัยหากเมลล์นี้รบกวน
20 ส.ค. 2552 , 07:41 PM e0 ชอบ | | | 0 ไม่ชอบ |