data-ad-format="autorelaxed">
คลังถังแตก! เปิดรายงาน"กิตติรัตน์"แจงครม. เหลือเงินจำนำข้าว 36,195 ล้าน สังเวยประชานิยมสุดโต่ง
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานผลการจัดหาเงินกู้ โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 มิ.ย.2556 ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวงเงินเหลือ ประมาณ 36,195 ล้านบาท ขณะที่ยังมีปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวในฤดูผลิต 2556/57 ซึ่งรับจำนำข้าวแล้วกว่า 10 ล้านตัน มีรายละเอียดดังนี้]
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2556 กำหนดเงื่อนไขให้กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการให้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินทุนหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ภายใต้กรอบวงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้จำนวน 410,000 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 นั้น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ขอเรียนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. วันที่ 2 ต.ค.2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 เฉพาะในส่วนของข้าวเปลือก จำนวน 15 ล้านตัน โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป และอนุมัติวงเงินเพื่อการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 240,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 150,000 ล้านบาท และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงบประมาณ ดำเนินการจัดทำบัญชีหมุนเวียนและกรอบวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินโครงการ โดยให้นำเงินที่ได้จากการระบายข้าวไปประกอบการจัดทำบัญชีหมุนเวียนด้วย
ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อเพื่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในครั้งนี้จำนวน 150,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2554 อนุมัติไปแล้ว จำนวน 269,160 ล้านบาท จะต้องไม่เกินกรอบวงเงินจำนวน 410,000 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2554 อนุมัติไว้สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และให้กระทรวงพาณิชย์รายงานข้อมูลการเงินและการระบายข้าวให้คณะรัฐมนตรีรับทราบเป็นรายไตรมาสด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
2. วันที่ 10 มิ.ย.2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรณีมีความจำเป็นให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อนระหว่างรอเงินจากการระบายผลิตผล หรือเงินจากแหล่งอื่นๆ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ตกลงกับ ธ.ก.ส.เป็นคราวๆ ไป โดย ธ.ก.ส. จะได้รับอัตราชดเชยต้นทุนเงินและค่าบริหารโครงการในอัตราเดิมตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2555 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการให้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ไม่เกินจำนวน 500,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้ จำนวน 410,000 ล้านบาท นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติให้นำเงินที่ได้จากการระบายผลิตผลทางการเกษตรตั้งแต่ปีการผลิต 2554/55 เป็นต้นไป ให้นำไปชำระคืน ธ.ก.ส.จำนวน 90,000 ล้านบาท ให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังจัดหาและค้ำประกันที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ 2556 โดยเงินทุนของ ธ.ก.ส.จำนวน 90,000 ล้านบาท ที่ได้รับชำระคืน สามารถนำมาใช้หมุนเวียนสำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ได้ด้วย
3. วันที่ 3 ก.ย.2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินโครงการจำนำข้าวเปลือก (นาปี) ภายใต้กรอบวงเงินของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 จำนวน 270,000 ล้านบาท ให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบไว้ เพื่อให้ข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กำหนด และเกษตรกรได้เข้าร่วมโครงการอย่างทั่วถึง และได้รับราคาจำนำอย่างเป็นธรรมตามเป้าหมาย ทั้งนี้ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า กระทรวงการคลังได้ประสานงานกับ ธ.ก.ส. แล้ว ขอรายงานผลการดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลทางการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2556 ว่าได้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 เป็นจำนวนรวม 463,805 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เงินกู้ที่กระทรวงการคลังได้จัดหาเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ภายใต้กรอบวงเงินกู้ ไม่เกิน 410,000 ล้านบาท โดยมีหนี้คงค้างสำหรับโครงการดังกล่าว ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 เป็นจำนวนรวม 396,756 ล้านบาท ยังคงเหลือกรอบวงเงินกู้ จำนวน 13,244 ล้านบาท (410,000-396,756 ล้านบาท)
2.ธ.ก.ส.ได้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของ ธ.ก.ส.ภายใต้กรอบวงเงิน 90,000 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 ธ.ก.ส. ได้ใช้เงินทุนไปแล้ว สำหรับปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 จำนวนรวม 37,994 ล้านบาท และปีการผลิต 256/57 จำนวน 29,055 ล้านบาท คงเหลือวงเงินอีก จำนวน 22,951 ล้านบาท (90,000-37,994-29,055 ล้านบาท)
ข่าวจาก : bangkokbiznews.com