มะม่วงป่า - เกษตรน่ารู้

มะม่วงป่า - เกษตรน่ารู้ มะม่วงป่าไม้ต้น สูง 25-30 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูงถึงแผ่กว้าง ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีน้ำตาลเทา แตกเป็นสะเก็ด เปลือกชั้นในสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง แผ่นใบ เรียวยาว รูปขอบขนานแกมรูปรีถึงแกมรูปไข่กลับ ดอก เล็กสีเหลืองอ่อน หรือสีครีม ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ผล กลมรี กว้าง 2.5-3 เซนติเมตร ยาว 2.5-3.5 เซนติเมตร เมื่อแก่สุกสีเหลืองส้ม แต่ถ้าสุกมากจะมีสีคล้ำเกือบดำออกดอกระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ผลแก่ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม

พบขึ้นตามที่ลุ่มต่ำ ชายฝั่งแม่น้ำ และในป่าพรุ ทางภาคใต้ของประเทศไทย ในต่างประเทศพบที่มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ผล ช่อดอก และยอดอ่อน ใช้รับประทานได้ เนื้อไม้ใช้ก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน เครื่องเฟอร์นิเจอร์ และด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ ผลอ่อนมีวิตามินซี ผลสุก ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง และต้านความชรา ใบอ่อนใช้เป็นผักสด ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน และวิตามินซี

นอกจากนี้แล้วในผลสุกยังมีเบต้าแคโรทีนสูง เนื้อในเมล็ดและเปลือกต้นมีสารพวกแทนนิน มีสรรพคุณในการใช้แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้อาเจียน กาฝาก มีสรรพคุณใช้แก้โรคเบาหวาน แก้ปวดศีรษะ และลดความดันโลหิต ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดทาบกิ่ง ต่อกิ่ง หรือ การเปลี่ยนยอด ปลูกได้โดยทั่วไปในพื้นที่ของประเทศไทย.

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น