สบู่สกัดน้ำมันรำข้าว ผลิตภัณฑ์วิจัยเสริมรายได้ชุมชน

สบู่สกัดน้ำมันรำข้าว 'หอมมะลิ' ผลิตภัณฑ์วิจัยเสริมรายได้ชุมชน
ข้าวหอมดอกมะลิ 105 ไม่เพียงสุดยอดข้าวไทยจนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เด่นจนประสบความสำเร็จ โดยศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว ก่อนจะไปขยายผลสู่กลุ่มชุมชนต่างๆ ใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีทั้งครีม โลชั่นและสบู่น้ำมันรำข้าว นับเป็นนวัตกรรมจากข้าวไทย ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์และการไม่หยุดพัฒนาเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ

จิตติมา วงศ์หนองหว้า นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หนึ่งในทีมวิจัยผลิตภัณฑ์จากข้าว บอกว่า น้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าวนั้น มีวิตามินอีอยู่จำนวนมาก และมีสารเซราไมด์ (Ceramide)ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น การเสริมเซราไมด์ให้เพียงพอทั้งโดยการรับประทานหรือการให้ทาผิวหนังในรูปการทาครีมหรือโลชั่น ซึ่งจะสามารถช่วยรักษาผิวพรรณให้สดชื่นเปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สบู่น้ำมันรำข้าวระดับพรีเมียม จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นต่อสภาพผิว บำรุงผิวพรรณ อุดมด้วยวิตามินอี ลดริ้วรอยบนใบหน้า ผลัดเซลล์ผิวหนังใหม่ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติดูดรังสีอัลตราไวโอเลตได้อีกด้วย เนื่องจากน้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าวมีวิตามินอีสูงและมีสารเซราไมด์ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น รักษาผิวพรรณให้สดชื่น เปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร นอกจากนั้นเซราไมด์ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ (Whitener) ซึ่งสามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน (Melanin) อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี

นักวิจัยคนเดิมอธิบายถึงวิธีการทำผลิตภัณฑ์สบู่น้ำมันรำข้าวเริ่มจากทาพิมพ์ด้วยวาสลิน ปิโตรเลียมเจลลี่ เพื่อให้เนื้อสบู่ไม่ติดกับพิมพ์ จากนั้นให้ชั่งโซเดียมไฮดรอกไซด์ 74.84 กรัม ต่อมาตวงน้ำนึ่งฆ่าเชื้อเสร็จแล้วผสมน้ำมันทุกอย่างประกอบด้วย น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอกและน้ำมันละหุ่ง ในภาชนะสเตนเลสอุ่นให้ได้อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส จากนั้นค่อยๆ ผสมโซเดียมไฮดรอกไซด์ในน้ำ ซึ่งในขั้นตอนนี้ให้ทำภายในตู้ดูดควันหรือในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี จากนั้นปรับอุณหภูมิให้เท่ากับน้ำมันประมาณ 45 องศาเซลเซียส แล้วผสมน้ำละลายด่างในน้ำมันเสร็จแล้วให้เติมหัวน้ำหอม คนให้เข้ากันโดยเร็วก่อนเทใส่พิมพ์ เนื่องจากเนื้อสบู่จะแข็งตัวเร็ว

ด้าน พูนศักดิ์ เมฆวัฒนากาญจน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี กล่าวเสริมว่า ศูนย์วิจัยแห่งนี้นอกจากเน้นในเรื่องการวิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวแล้ว ยังมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวในทุกรูปแบบ เพื่อให้จะได้นำส่วนต่างๆ ที่สำคัญมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้เมื่อเราทำสำเร็จแล้วก็จะนำไปขยายผลสู่ชุมชนในพื้นที่ต่อไป

"ขณะนี้มีหลายชุมชนในอุบลฯ ที่ศูนย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอนวิธีการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งครีม โลชั่นและสบู่จากน้ำมันรำข้าว เพื่อเขาจะได้มีอาชีพเสริม มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากการทำนาเพื่อขายข้าวอย่างเดียว" ผอ.ศูนย์วิจัยข้าวอุบลฯ กล่าวย้ำ

สบู่น้ำมันรำข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ภายใต้การคิดค้นของทีมนักวิจัยรุ่นใหม่ของกรมการข้าว นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์เด่นที่เป็นนวัตกรรมจากข้าวไทย สนใจผลิตภัณฑ์หรือสูตรการผลิตติดต่อศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โทร.0-4534-4103-4 ในวันและเวลาราชการ

อ้างอิง:www.komchadluek.net

ส่งความคิดเห็น