data-ad-format="autorelaxed">
การจัดเก็บเมล็ด
จากความ สัมพันธ์ระหว่างความชื้น เมล็ด-ความชื้นสัมพัทธ์ และอุณหภูมิ ในการเก็บรักษา จึงได้มีการพัฒนาจัดสร้างโรงเก็บเพื่อควบคุมบรรยากาศให้สามารถเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ได้ยาวนาน มีการใช้บรรจุภัณฑ์ซึ่งเปรียบเสมือนโรงเก็บเล็ก ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการจำหน่าย ขนย้าย โดยการพิจารณาควบคู่ไปกับระยะเวลาที่ต้องการจะเก็บรักษา ซึ่งอาจจัดแบ่งตามวัตถุประ สงค์ ได้ดังนี้
1. เก็บข้ามฤดูหรือระยะสั้น เพื่อที่จะเก็บเมล็ดไว้ใช้ทำพันธุ์ในฤดูถัดไป เป็นเวลา 1-9 เดือน
2. เก็บข้ามปี เพื่อใช้ทำพันธุ์ในปีต่อ ๆ ไป
- ระยะปานกลาง
1-3 ปี สำหรับพืชไร่ พืชผักทั่วไป
3-5 ปี สำหรับการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์หลัก
-ระยะยาว
10-20 ปี ในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์คัด และเชื้อพันธุ์เมล็ดพันธุ์ที่เก็บรักษาในปริมาณมาก เช่น ในยุ้งฉาง ในถังพักก่อนการปรับปรุงสภาพหรือในสภาพพร้อมจำหน่ายโดยบรรจุในกระสอบ พลาสติก สาน จะต้องมีความชื้นอยู่ในระดับที่พอเหมาะคือ ธัญพืชไม่เกิน 11% พืชน้ำมันและพืชผัก ไม่เกิน 9% สำหรับเมล็ดที่บรรจุในกระสอบพลาสติกสานจะมีอายุการเก็บรักษานานเท่าใดขึ้นอยู่กับ ชนิดของโรง เก็บกล่าวคือ
(1) หากใช้ โรงเก็บธรรมดา ซึ่งมีการออกแบบและก่อสร้างให้ป้องกันรังสีความร้อนและความชื้น จากอากาศภายนอกโดยให้มีการ ระบายอากาศ และสามารถป้องกันศัตรูพืช เช่น นก หนู และแมลง ถือเป็นการเก็บรักษาระยะสั้นถึงปานกลาง ซึ่งใช้ได้ดีสำหรับภูมิประเทศเขตอบอุ่น แต่ในเขตร้อนชื้น เมล็ดที่บรรจุอยู่ภายในกระสอบพลาสติกสานจะมีความชื้นสูงขึ้นตามระยะเวลาและสภาพอากาศ จึงเสื่อมคุณภาพได้เร็วกว่า โรงเก็บธรรมดานี้จะให้ผลในการเก็บรักษาได้นาน ฝ-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิด ของพืช
(2) หากใช้ โรงเก็บความควบคุมสภาพ ที่มีการก่อสร้างให้ป้องกันความร้อนและความชื้นจาก อากาศทุก ๆ ด้านอย่างแน่นหนา ไม่มีหน้าต่างรวมทั้งการระบายอากาศ แล้วควบคุมอุณหภูมิและ ความชื้นสัม พัทธ์ภายในโดยการใช้ Dehumidifier และเครื่องปรับอากาศหรืออาจจะใช้ซิลิกาเจล เป็นสารดูดความ ชื้นแล้วใช้เครื่องปรับอากาศเป็นตัวทำความเย็นจะให้ผลการเก็บรักษาในระยะ ปานกลางขึ้นไป การ เลือกชนิดของโรงเก็บจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และความสำคัญของพืชประกอบ ด้วย หากไม่ใช่พืชที่เก็บรักษายากหรือไม่จำเป็นต้องเก็บไว้นาน ควรเลือกใช้โรงเก็บธรรมดาแทน