data-ad-format="autorelaxed">
สองคนเก่งปลูกข้าว "แชมป์ชาวนา" ประดับ ปานภาษี (ซ้าย) เอนก สุขาบูรณ์ (ขวา)
เบื้องหลังเป็นแปลงนาที่ใช้วิธีการปราบหญ้าด้วยน้ำ
คุณประดับ ปานภาษี อยู่ที่ 83/1 ม.7 ต.คลองนกกระทุง อ.บางเลน จ.นครปฐม รายนี้มีดีกรีเป็นแชมป์ชาวนา ที่สามารถทำนาได้ผลผลิตข้าวกว่า 1,500 กิโลกรัม/ไร่ โดยใช้พันธุ์ข้าวซีพี 304 ซึ่งเป็นข้าวลูกผสมที่ชาวนาในเขตอำเภอบางเลนพึงพอใจในคุณสมบัติเด่นของข้าวพันธุ์นี้ ทั้งเรื่องของผลผลิตต่อไร่ที่สูงกว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ และความต้านทานต่อโรคแมลงที่ดีกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป
ปัจจุบันคุณประดับมีพื้นที่นารวมทั้งสิ้น 25 ไร่ โดยทำนาในลักษณะของนาหว่าน ซึ่งใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวอัตรา 10 กิโลกรัม/ไร่ ควบคู่ไปกับการนำ “เทคนิคการใช้น้ำปราบหญ้า” ของอาจารย์เสถียร พรหมชัยนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้าว กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์มาใช้กำจัดปัญหาข้าวดีดข้าวเด้งและวัชพืชในนาข้าว พบว่าเทคนิคดังกล่าวทำให้ต้นข้าวที่ปลูกมีการเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ และลดต้นทุนเรื่องการใช้สารเคมีได้เป็นจำนวนมาก
สำหรับรายละเอียดเรื่องการใช้น้ำปราบหญ้า คือ เริ่มจากการทำเทือกให้เรียบสม่ำเสมอ ขั้นตอนต่อมานำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่แช่น้ำมา 2 วัน หว่านลงในแปลงนาในอัตราสม่ำเสมอ หลังจากทำการหว่านข้าว 3-4 วัน จึงทำการปล่อยน้ำเข้าแปลงให้มีระดับความสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร ทั่วทั้งแปลง ซึ่งในระยะนี้หากพบหอยเชอรี่ในแปลง คุณประดับแนะนำให้ใช้กากชาหว่านในแปลงนาเพื่อกำจัดหอยเชอรี่ จากนั้นประมาณ 10 วัน จึงปล่อยน้ำเข้าในแปลงนาอีกครั้ง ซึ่งสิ่งสำคัญที่พึงระวังคือ อย่าปล่อยให้แปลงนาแห้ง เพราะจะทำให้มีหญ้าขึ้นในนาข้าวได้ ถ้าใช้วิธีอย่างนี้แล้วหญ้าและวัชพืชในนาข้าวจะน้อยมาก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของสารเคมีในการกำจัดวัชพืชได้มาก
คุณประดับ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อข้าวมีอายุ 15 วัน จึงทำการหว่านปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 25 ไร่ และเมื่อข้าวมีอายุ 22 วัน ให้ทำการฉีดยาป้องกันหนอน, เชื้อรา และอาหารเสริมทางใบ จากนั้นเมื่อข้าวอายุ 45 วัน แนะนำให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 25 ไร่
หลังจากนั้นเมื่อข้าวเริ่มเข้าสู่ระยะแต่งตัว หรืออายุประมาณ 50 วันขึ้นไป เป็นช่วงที่เกษตรกรควรเฝ้าระวังในเรื่องของหนอนกอ โดยเฝ้าสังเกตแปลงและระวังอย่าให้น้ำในแปลงนาแห้ง ในกรณีที่พบการระบาดของหนอนกอ ควรนำยากำจัดหนอนชนิดเม็ดหว่านในแปลงนา ตามอัตราส่วนตามที่หน่วยราชการแนะนำ
ด้านคุณอเนก สุขาบูรณ์ เกษตรกรในบ้านหมู่ 8 ต.คลองนกกระทุง อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นอีก 1 แชมป์ชาวนาปี 2554 ฤดูกาลนาปรัง 1 เล่าให้ฟังว่าได้ทดลองปลูกข้าวลูกผสม ซี.พี. 304 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวได้ในเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงที่ปลูกพันธุ์ กข. 29 ให้ผลผลิตเฉลี่ยเพียง 600-700 กิโลกรัม เบื้องต้นรู้สึกพอใจ และคิดว่าพันธุ์ข้าวลูกผสม ซี.พี.304 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ผลผลิตสูง อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังแนะนำให้นำเทคนิคการใช้น้ำปราบหญ้า ทำให้ลดปัญหาเรื่องข้าวดีด ข้าวเด้งที่เคยเกิดขึ้นลงได้
“ที่ผ่านมา การหว่านพันธุ์ข้าวทั่วไปจะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวในอัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ ขณะที่พันธุ์ข้าวลูกผสม ซี.พี. 304 ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 10 กิโลกรัม/ไร่ และถึงราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวลูกผสมจะมีราคาสูงกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไปอยู่บ้าง แต่เมื่อเปรียบเทียบผลผลิตเฉลี่ยที่สูงกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไปเกือบ 2 เท่า และรายได้ที่เพิ่มขึ้นคิดว่าคุ้มค่ากับการลงทุน นอกจากนี้การใช้พันธุ์ข้าวลูกผสม ซี.พี.304 ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการฉีดพ่นสารกำจัดโรคแมลง และเชื้อราลงไปจากเดิมเคยใช้ 6-7 ครั้ง /ฤดูกาล เหลืองเพียง 3-4 เที่ยว อีกทั้งในช่วงที่ข้าวตั้งท้อง หรือที่เรียกว่าระยะข้าวแต่งตัว ตามปกติจะต้องหว่านยาป้องกันหนอนกอซึ่งจะระบาดในระยะนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง แต่พอใช้สายพันธุ์ข้าวลูกผสมกลับไม่ต้องใช้ และไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด” คุณอเนกกล่าว
อ้างอิง : http://www.cpcrop.com