data-ad-format="autorelaxed">
ปลูกไม้ไผ่ลวก
ชาวบ้านท่าหินโงม ปลูกไม้ไผ่ลวกเสริมริมไร่มันสำปะหลัง-สวนยาง แปรรูปเป็นหน่อไม้ปี๊บส่งขายสร้างรายได้กว่า 50,000 บาทต่อปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ พบครอบครัวคุณแม่สมหวัง สะวันนา อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 1 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เล่าว่า "ครอบครัวของตนเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่ด้วยกันประมาณ 10 คน มีที่พักอาศัยของตนและลูกๆ รวม 2 หลัง ซึ่งอยู่ติดกัน เป็นครอบครัวที่มีความอบอุ่น ปกติลูกๆหลานๆจะมีอาชีพหลักคือการทำสวนมันสำปะหลัง สับปะรด และสวนยางพารา ในขณะเดียวกันในบริเวณข้างๆริมไร่-สวนยาง ก็จะปลูกไม้ไผ่ลวก เพื่อนำไม้ไผ่ที่ได้ไปใช้ทำที่พักอาศัย เครื่องจักสานต่างๆ และเครื่องใช้อื่นๆทางการเกษตร"
นายมนัส สะวันนา (ลูกชาย) อายุ 53 ปี เล่าว่า "ตนเองและครอบครัวได้ปลูกไม้ไผ่ลวกไว้ใช้ทำเครื่องมือทางการเกษตร ในบริเวณริมไร่มันสำปะหลัง ไร่สับปะรด และสวนยางพารา ในช่วงประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมา ไม้ไผ่ได้รับน้ำฝน ทำให้แทงหน่อออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งโดยปกติก็จะนำหน่อไม้สดๆมาต้มแล้วนำไปปรุงอาหารหลากหลายชนิด แต่ด้วยจำนวนของหน่อไม้ที่ออกมาเป็นจำนวนมาก ตนเองและครอบครัวจึงได้คิดหาวิธีการถนอมอาหาร ตามภูมิปัญญาชาวบ้านแบบอีสาน ด้วยวิธีเผาแล้วนำไปต้มแล้วอัดปี๊บ หรือใส่ถุงเพื่อเก็บไว้กินนานๆ ซึ่งคุณแม่ เป็นคนที่มีความรู้ ตนจึงได้ไปซื้อปี๊บน้ำมันพืช นำมาล้างน้ำให้สะอาดเพื่อนำไปใส่หน่อไม้แล้วนำไปต้มให้สุกและปราศจากเชื้อโรค หลังจากนั้นก็ปิดฝาปี๊บไม่ให้รั้วหรือมีอากาศเข้าไปข้างใน ด้วยวิธีการบัดกรีให้แน่น เพื่อรอพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อ"
ด้าน นางนงนุช สะวันนา ซึ่งเป็นน้องสาว และมีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า "ตนเองได้ร่วมกับพี่ๆน้องๆ และหลานๆ ช่วยกันไปเก็บหน่อไม้สดๆจากริมไร่ ใส่ถุงปุ๋ย แล้วนำมาให้แม่ทำการเผาให้เปลือกไหม้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อง่ายต่อการปลอกเปลือกหน่อไม้ที่ไม่ต้องการออก หลังจากนั้นก็เหลาหน่อไม้เอาผิวที่แข็งและส่วนที่ไม่ได้การออกไป นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาใส่ในปี๊บที่จัดเตรียมไว้ ใส่น้ำหน่อไม้ลงในปี๊บประมาณ 14 กิโลกรัม นำไปวางบนคานเหล็กแล้วใส่น้ำเต็ม เพื่อทำการต้มให้สุกประมาณ 3 ชั่วโมง คอยเติมน้ำในปี๊บหน่อไม้ที่ต้มตลอด เพื่อไม่ให้น้ำแห้งแล้วอาจจะมีกลิ่นเหม็นไหม้ได้ ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
"หลังจากหน่อไม้ที่ต้มสุกแล้ว ก็จะนำมาปิดฝาปี๊บด้วยวิธีบัดกรี แต่ไม่ใช้น้ำกรดในการบัดกรีโดยเด็ดขาดเนื่องจากอาจมีสารตกค้างได้ แต่จะใช้ยางสนเป็นน้ำยาประสานในการบัดกรีให้ปี๊ดที่เราต้มสุกปิดสนิท ไม่มีอากาศเข้าไปได้ หรือน้ำในปี๊บไหลออกมาในขณะขนส่งโดยเด็ดขาด เป็นวิธีการต้มสดๆ โดยไม่มีเชื้อโรคเขาไปได้อย่างแน่นอน"
"ส่วนด้านการจำหน่าย ก็จะมีพ่อค้ามารับถึงบ้านในราคาปี๊บละ 380 บาท ซึ่งจะเป็นอาชีพที่เสริมรายได้ให้กับครอบครัว สร้างรายได้ปีละกว่า 50,000 บาท ต่อปี ทำให้สามารถมีรายได้ นำเงินไปลงทุนภายในครอบครัว เป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกๆหลานๆ ได้อยู่ได้กิน และได้เรียนหนังสือที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นความหวังของคนในครอบครัว เป็นความภาคภูมิใจที่ครอบครัวมีอาชีพและมีรายได้พออยู่พอกิน" นางนงนุช กล่าว
source: banmuang.co.th/news/region/61205