พัฒนาเนื้อโคขุน โพนยางคำ ยกระดับแปรรูปปศุสัตว์สู่สากล

พัฒนา เนื้อ โคขุน 'โพนยางคำ' ยกระดับแปรรูปปศุสัตว์สู่สากล
สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด กลุ่มธุรกิจจำหน่ายเนื้อ โคขุน คุณภาพแห่ง จ.สกลนคร เป็นหนึ่งในจำนวนนับร้อยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการแปรรูปการเกษตร ในภูมิภาค ตามนโยบาย One Province One Agro-Industrial Product (OPOAI) ตั้งแต่เปิดโครงการถึงปัจจุบัน ด้วยมุ่งเน้นพัฒนาปรับปรุงการผลิตให้ได้มาตรฐานต่อเนื่องและครบวงจร เป้าหมายเตรียมพร้อมเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียนในปี 2558

นายสุทธิพงศ์ วงผาบุตร ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า สหกรณ์ตั้งอยู่บ้านโพนยางคำ หมู่ 10 ถ.สกลนคร-นาแก ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนคร ก่อตั้งเมื่อปี 2523 โดยกลุ่มสมาชิกเขต อ.เมือง ดำเนินธุรกิจประเภทฆ่า ชำแหละ และจำหน่าย เนื้อโคขุน ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจยังไม่สามารถแข่งขันได้เต็มที่ เนื่องจากบุคลากรยังขาดความรู้ด้านบริหารจัดการโลจิสติกส์ กลยุทธ์ขับเคลื่อนทางการตลาด อีกทั้ง กฎระเบียบบางประการของสหกรณ์เป็นอุปสรรคส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทเอกชนได้

"สหกรณ์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับสหกรณ์ให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะการเปิดเสรีอาเซียนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราจึงได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเป็นปีแรก" ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กรป.กลาง แจงเหตุผลการเข้าร่วม

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการแปรรูปการเกษตรฯ เป็นโครงการของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เริ่มเมื่อปี 2550 และปัจจุบันมีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ กว่า 600 แห่ง ที่สำคัญกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ ได้รับผลตอบแทนที่สามารถวัดมูลค่าเป็นตัวเงินได้กว่า 2,600 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2555 มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการมากถึง 158 แห่ง จาก 75 จังหวัดทั่วประเทศ

"ในส่วนของสหกรณ์ทางโครงการได้ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการจัดการโลจิสติกส์ ควบคู่กับกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดให้แก่บุคลากร ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมภาคสนาม อาทิ จัดทำระบบจัดเก็บสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การสร้างเครือข่ายผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผลิตเนื้อป้อนตลาดได้อย่างพอเพียง มีการจำหน่ายน้ำเชื้อและให้ความรู้แก่ผู้เลี้ยงโคพันธุ์ มีการจัดหาลูกโคให้สมาชิกในราคาต่ำ ฯลฯ" นายสุทธิพงศ์ แจง

พร้อมย้ำว่า การที่สหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ทำให้สามารถลดต้นทุนการขนส่งได้นับหลายล้านบาท ขณะเดียวกันก็เพิ่มช่องทางการตลาดได้เป็นอย่างดี

ด้าน นายสมชาย หาญหิรัญ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังร่วมทีมผู้บริหารลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้การดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการผู้เข้าร่วมโครงการได้รับผลสำเร็จมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ทั้งนี้ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถานประกอบการที่มีผลสัมฤทธิ์ดีเด่นจากการเข้าร่วมโครงการในการพัฒนา 6 แผนงานหลัก ประกอบด้วย 1.การบริหารจัดการโลจิสติกส์ 2.การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 3.การปรับปรุงคุณภาพและการพัฒนางาน 4.การลดต้นทุนพลังงาน 5.การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ระบบมาตรฐานสากล และ 6.กลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาด

หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กล่าวยอมรับว่า ผลสัมฤทธิ์ทั้ง 6 ประการที่กล่าว เป็นการสร้างเสริมศักยภาพของสถานประกอบการให้เพิ่มสูงขึ้น ควบคู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์อันจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวให้เข้มแข็งทั้งเชิงรุกและเชิงรับ พร้อมสู้กับประเทศอื่นๆ อีกทั้ง สอดคล้องตามนโยบายของรัฐ และเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรของไทยให้สามารถรับการเปิดเสรีอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 ด้วย

อ้างอิง:www.komchadluek.net

ส่งความคิดเห็น